'ส้มโชกุนเบตง' สินค้า GI ใหม่ ยกระดับสู่ตลาดโลก ทำเงินปีละ 167 ล้าน

'ส้มโชกุนเบตง' สินค้า GI ใหม่ ยกระดับสู่ตลาดโลก ทำเงินปีละ 167 ล้าน

"ส้มโชกุนเบตง" ของดียะลา พลิกโฉมสู่ "ส้มเพชรยะลา" หลังขึ้นทะเบียน GI เตรียมบุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ สร้างรายได้มหาศาลกว่า 167 ล้านบาทต่อปี

รัฐบาลเดินหน้าหนุนสินค้าเกษตรไทย! "ส้มโชกุนเบตง" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ส้มเพชรยะลา" จ.ยะลา สร้างชื่อกระฉ่อน หลังกรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ลำดับที่ 3 ของจังหวัดอย่างเป็นทางการ เตรียมปูทางสู่การสร้างรายได้มหาศาลกว่า 167 ล้านบาทต่อปีจากการส่งออกทั้งในและต่างประเทศ

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า การขึ้นทะเบียน GI ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเพิ่มมูลค่าและชื่อเสียงให้กับส้มโชกุนเบตง ซึ่งเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของภาคใต้ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว แต่ยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกส้มได้อย่างยั่งยืน
 

ส้มโชกุนเบตง มีต้นกำเนิดจากส้มเขียวหวานของจีนที่นำมาปลูกในอำเภอเบตง ภายใต้สภาพอากาศร้อนชื้น ฝนตกชุก และได้รับแสงแดดน้อย ทำให้ส้มมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากส้มเขียวหวานทั่วไป โดยมีลักษณะเด่นคือ สีเขียวอมส้มเล็กน้อย ผลใหญ่ ผนังกลีบบาง ไม่มีกาก เนื้อแน่น สีเข้ม ฉ่ำน้ำ รสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย เปลือกค่อนข้างหนาแต่ปอกง่าย และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ด้วยความโดดเด่นนี้ ทำให้เกษตรกรในอำเภอเบตงและอำเภอเมืองยะลาหันมาเพาะปลูกอย่างแพร่หลาย จนเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ส้มโชกุนเบตง"
 

นายอนุกูล ย้ำว่า รัฐบาลมุ่งมั่นผลักดันสินค้าเกษตรทั่วประเทศให้มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในการขึ้นทะเบียนสินค้า GI เพื่อคุ้มครองสินค้าท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและพื้นที่ผลิต สร้างมูลค่าเพิ่ม ส่งเสริมการควบคุมคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และขยายตลาดส่งออกทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การขึ้นทะเบียน GI ของส้มโชกุนเบตงในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับสินค้าเกษตรไทยสู่สากล สร้างรายได้ให้เกษตรกร และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง