กรมประมง ยกระดับ ตรวจเข้มสารปนเปื้อน แม่น้ำสาย-แม่น้ำกก 22 จุด

กรมประมง ยกระดับ ตรวจเข้มสารปนเปื้อน แม่น้ำสาย-แม่น้ำกก 22 จุด

กรมประมง ยกระดับตรวจเข้มสารปนเปื้อนสัตว์น้ำ แม่น้ำสาย-แม่น้ำกก 22 จุด หลังคลี่ปมปลาแค้ตุ่มแดงจาก "พยาธิใบไม้" ยืนยันความปลอดภัยเพื่อผู้บริโภค

กรมประมง เร่งยกระดับมาตรการเฝ้าระวังและติดตามสารปนเปื้อนในสัตว์น้ำจากปัญหามลพิษข้ามพรมแดนในแม่น้ำสายและแม่น้ำกก โดยขยายจุดสำรวจเพิ่มเป็น 22 จุด ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่องทุก 2 สัปดาห์ เพื่อประเมินผลกระทบต่อสุขภาพสัตว์น้ำและสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยอาหารให้แก่ประชาชน

นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ปัญหามลพิษในแม่น้ำสายและแม่น้ำกกที่ยืดเยื้อได้สร้างความกังวลต่อการปนเปื้อนของสารพิษที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สัตว์น้ำ และสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะกรณีการเผยแพร่ภาพปลาแค้มีตุ่มแดง ซึ่งทำให้เกิดความตื่นตระหนกและลดความเชื่อมั่นในการบริโภคสัตว์น้ำ

กรมประมง ยกระดับ ตรวจเข้มสารปนเปื้อน แม่น้ำสาย-แม่น้ำกก 22 จุด

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง จึงได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มข้นในการติดตามและเฝ้าระวังสารปนเปื้อน โดยขยายจุดสำรวจจากเดิม 4 จุด เป็น 22 จุด ครอบคลุมจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย

จากการเก็บตัวอย่างสัตว์น้ำ 12 ชนิด เมื่อวันที่ 14-15 มิถุนายน 2568 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 6 จุด ได้แก่ ฝายเชียงราย, แม่น้ำกก อ.ดอยฮาง (เหนือฝาย), สะพานแม่น้ำกก อ.เชียงแสน (สบกก), วัดสันธาตุ อ.เชียงแสน, แม่น้ำโขง อ.เชียงแสน (สบรวก), และแม่น้ำโขง อ.เชียงแสน (สบคำ) พบว่าปลาส่วนใหญ่มีสุขภาพปกติ ยกเว้นปลาแค้ขนาดเล็ก 2 ตัว จากทั้งหมด 28 ตัว (ร้อยละ 7.14) ที่พบตุ่มแดงบนผิวหนัง

กรมประมง ยกระดับ ตรวจเข้มสารปนเปื้อน แม่น้ำสาย-แม่น้ำกก 22 จุด
 

ผลการตรวจสอบด้วยกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูงพบปรสิตปลิงใสเกาะบริเวณครีบ และที่บริเวณตุ่มเนื้อสีแดงพบ พยาธิใบไม้ จำนวนมาก กรมประมงระบุว่าการพบพยาธิใบไม้ในปลาแค้ครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่าปลาแค้เป็นเจ้าบ้านที่มีความจำเพาะต่อพยาธิชนิดนี้

รองอธิบดีกรมประมงกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการสอบถามชาวประมงในพื้นที่ยืนยันว่าลักษณะตุ่มแดงในปลาแค้ขนาดเล็กพบมานานหลายปีแล้ว และพวกเขายังคงบริโภคปลาที่จับได้ตามปกติ หลังจากได้รับทราบข้อเท็จจริงจากกรมประมง ก็มีความมั่นใจในการบริโภคมากขึ้น

"พยาธิใบไม้ในสัตว์น้ำเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ และสามารถทำลายได้ด้วยการปรุงให้สุกเท่านั้น จึงจะปลอดภัยต่อการบริโภค" นางฐิติพรกล่าวย้ำ กรมประมงจะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบสุขภาพสัตว์น้ำและสารปนเปื้อน พร้อมสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกคน