'พิพัฒน์' ยันแรงงานกัมพูชายังไม่กลับ เผยดึงแรงงานเมียนมาเสริม

'พิพัฒน์' ยันแรงงานกัมพูชายังไม่กลับ เผยดึงแรงงานเมียนมาเสริม

"พิพัฒน์" ยืนยันสถานการณ์แรงงานกัมพูชายังปกติ ไม่มีขอกลับประเทศ พร้อมเผยกระทรวงฯ เตรียมแผนดึงแรงงานเมียนมาเสริมทัพทดแทนหากจำเป็น มั่นใจดูแลทุกฝ่ายไร้ผลกระทบ.

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “การติดตามผลและระดมสมองเพื่อพัฒนาต้นแบบเครือข่ายด้านแรงงานในระดับภาค” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ณ จังหวัดสงขลา การสัมมนานี้ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพเครือข่ายด้านแรงงานในพื้นที่ และได้รับฟังปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “บทบาทของบัณฑิตแรงงานและอาสาสมัครแรงงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับพื้นที่”

นายพิพัฒน์ ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของบัณฑิตแรงงานและอาสาสมัครแรงงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาเครือข่ายให้มีความเข้มแข็งและทันสมัย เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานในอนาคต

ในโอกาสเดียวกันนี้ นายพิพัฒน์ ได้กล่าวถึงประเด็นที่กัมพูชามีความประสงค์จะนำแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ โดยยืนยันว่ากระทรวงแรงงานได้เตรียมแผนรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว “หากกัมพูชามีความประสงค์จะมีการนำแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศจริง ทางกระทรวงแรงงานได้มีการเตรียมแผนรองรับแล้ว โดยได้ประชุมหารือกับสภาองค์การลูกจ้างแห่งประเทศไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นายพิพัฒน์กล่าว

รมว.แรงงาน ได้ขอความร่วมมือไปยังองค์กรที่มีลูกจ้างชาวกัมพูชา ให้ดูแลแรงงานกลุ่มนี้ตามปกติ และขอให้ทำความเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้องชัดเจน เพื่อป้องกันความสับสนและผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์
 

นายพิพัฒน์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า หากแรงงานกัมพูชาหรือแรงงานต่างด้าวมีความจำนงขอกลับประเทศจริง ทางกระทรวงแรงงานจะดำเนินการให้ตามความประสงค์ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชาแต่อย่างใด “หากแรงงานเหล่านี้มีการแจ้งกลับประเทศจริง ทางกระทรวงแรงงานก็มีการเตรียมแผนรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการนำแรงงานสำรองจากประเทศอื่นเข้ามาทำงานทดแทน โดยเฉพาะแรงงานจากประเทศเมียนมา ที่กำลังรองานอีกเป็นจำนวนมาก รวมถึงแรงงานภาคการประมง ที่มีการประสานมาจากประเทศบังกลาเทศ ก็แจ้งความประสงค์จะเข้ามาทำงานได้ทันที” นายพิพัฒน์กล่าวสรุป เพื่อสร้างความมั่นใจว่าหากเกิดสถานการณ์ดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศ