รับมือความเครียดชายแดน กรมสุขภาพจิต แนะเทคนิคสร้างภูมิคุ้มกันใจ

รับมือความเครียดชายแดน กรมสุขภาพจิต แนะเทคนิคสร้างภูมิคุ้มกันใจ

กรมสุขภาพจิต ห่วงสถานการณ์ตึงเครียดชายแดน แนะประชาชนสังเกตอาการทางใจ และสร้างภูมิคุ้มกันใจให้เข้มแข็ง ด้วยเทคนิคผ่อนคลายง่ายๆ พร้อมสายด่วน 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง

วันนี้ (15 มิ.ย. 68) กรมสุขภาพจิต แสดงความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ชายแดนจากสถานการณ์ตึงเครียดที่กำลังเกิดขึ้น โดยเน้นย้ำให้ประชาชนใส่ใจดูแลสุขภาพจิตของตนเองและคนรอบข้าง เพื่อป้องกันผลกระทบจากความเครียด วิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า พร้อมแนะเทคนิคผ่อนคลายและช่องทางขอรับคำปรึกษา

นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพจิตใจของประชาชนในเขตสุขภาพที่ 6, 9 และ 10 ซึ่งอาจนำไปสู่ความเครียด วิตกกังวล ความกลัว และความไม่แน่นอน ซึ่งเป็นปฏิกิริยาทางจิตใจที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่หากปล่อยให้ความเครียดสะสมต่อเนื่อง อาจนำไปสู่ ภาวะซึมเศร้า หรือภาวะหมดไฟ (burnout) ได้

“กรมสุขภาพจิตจึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนใส่ใจสังเกตอาการทางจิตใจของตนเองและสมาชิกในครอบครัว เช่น ความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้น อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว นอนไม่หลับ หรือรู้สึกหมดกำลังใจ” นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าว

เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ กรมสุขภาพจิตได้แนะนำแนวทางในการดูแลสุขภาพจิตอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการใช้ เทคนิคการผ่อนคลายจิตใจ เช่น การฝึกหายใจลึก ๆ การทำสมาธิ หรือการออกกำลังกายเบา ๆ นอกจากนี้ การพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้สึกกับคนใกล้ชิดยังช่วยลดความโดดเดี่ยวทางอารมณ์และเสริมสร้างระบบสนับสนุนทางสังคม ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการสร้าง ภูมิคุ้มกันทางใจให้เข้มแข็ง พร้อมทั้งแนะนำให้ติดตามข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้อย่างสม่ำเสมอ
 

นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสุขภาพจิตได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณสุข โรงพยาบาล และศูนย์สุขภาพจิตในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและทรัพยากรในการให้บริการดูแลสุขภาพจิตแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

ประชาชนสามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาและความช่วยเหลือได้ผ่าน สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง

“การดูแลสุขภาพจิตในช่วงเวลาวิกฤตเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรได้รับความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการดูแลสุขภาพกาย เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในระยะยาวและเสริมสร้างความมั่นคงของชุมชน” นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

กรมสุขภาพจิต ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันสร้างบรรยากาศแห่งความสงบสุข หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยันหรืออาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนก รวมถึงส่งเสริมความเข้าใจ ความอดทน และความสามัคคีในสังคม เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจให้กับตนเอง ครอบครัว และชุมชน โดยกรมสุขภาพจิตจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินมาตรการสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ประชาชนสามารถผ่านพ้นสถานการณ์ที่ท้าทายนี้ไปได้อย่างปลอดภัย มั่นคง และยั่งยืน