ไฟเขียวไฟแดงซ้อนกัน  อันตราย  ต้องแก้ด่วน | ธงชัย พรรณสวัสดิ์

ผมเป็นคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์  คนไทยยุคก่อนมีระเบียบมีวินัยและแคร์ความรู้สึกของสังคมมากกว่าคนรุ่นใหม่สมัยนี้ 

จำได้ว่าสมัยเรียนปริญญาตรี วันหนึ่งกลับบ้านดึกมาก ประมาณเที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง นั่งรถแท็กซี่กลับบ้านเพราะรถเมล์หมดแล้ว  และแท็กซี่ได้จอดติดไฟแดงที่สี่แยก ซึ่งว่างมาก ไม่มีรถเลย อันเป็นภาวะกาณ์ปกติสำหรับสมัยนั้น 

พูดไปคนสมัยนี้คงแปลกใจว่าทำได้อย่างไร ที่คนขับแท็กซี่คนนั้นมิได้ฝ่าไฟแดงไป แต่กลับนั่งรอจนกระทั่งไฟเขียว จึงได้ขยับรถออกแม้จะไม่มีรถทางด้านซ้ายด้านขวาและด้านที่สวนมาแม้แต่คันเดียว กล่าวคือ ไม่มีอันตรายใดๆ เลยหากจะฝ่าไฟแดงนั้นไป 

และก็มิใช่ที่นี่และแยกนี้รวมทั้งคนขับแท็กซี่คนนั้นเท่านั้นที่เป็นเช่นนี้  มันเป็นทั้งสังคม สังคมแห่งการเคารพกฎจราจรแม้นไม่มีตำรวจจราจรอยู่ตรงนั้น 

นี่คือวินัยและการเคารพกฎจราจรของคนไทยในสมัยนั้น  ทว่าใดๆในโลกนี้ล้วนอนิจจัง  คือไม่มีอะไรไม่เปลี่ยน   ความคิดรวมทั้งความมีวินัยของคนก็ย่อมเปลี่ยนไปเช่นกัน 

เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน มีข่าวใหญ่ คือ เหตุการณ์ที่หมอผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ กระต่าย ถูกรถมอเตอร์ไซค์ที่ตำรวจผู้หนึ่งขับมาที่ความเร็วเกินร้อย ชนขณะกำลังเดินข้ามทางม้าลาย จนหมอกระต่ายกระเด็นไปไกลและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

อุบัติเหตุคนเดินข้ามทางม้าลายแล้วถูกรถโดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ชน มีมาตลอด  แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นได้กระตุกต่อมความคิดของคนไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพหลายคน ว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องดูแลปัญหานี้อย่างจริงจัง 

นั่นคือ ได้มีการรณรงค์ให้ทางการติดตั้งระบบไฟเขียวไฟแดงตรงบริเวณทางม้าลาย โดยเฉพาะที่มีการจราจรหนาแน่น ซึ่งก็ได้รับการตอบสนองที่ดีจากภาครัฐพอสมควร  มีการติดตั้งไฟจราจรดังกล่าวเกิดขึ้นแทบทุกมุมเมือง

  คนที่จะเดินข้ามถนนก็เพียงกดปุ่มแล้วรอจนไฟเขียวขึ้นที่ทางม้าลาย แต่ที่ถนนจะเป็นไฟแดงสั่งให้รถหยุดเป็นเวลาประมาณ 10-20 วินาที ให้คนเดินข้ามถนนได้อย่างปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ได้มีปัญหาที่คงไม่ได้คาดคิดไว้ตามมา คือ มีหลายพื้นที่ที่ทางม้าลายที่มีไฟจราจรนี้อยู่ใกล้กับทางแยกบนถนน ซึ่งมีไฟจราจรเป็นของตัวเองแยกไปอีกชุด เมื่อมีไฟจราจรซ้อนกัน 2 ชุดในที่ที่ห่างกันไม่มากนัก เช่น 40-50 เมตร ดังรูปที่ผมนำมาเป็นตัวอย่าง ก็จะเกิดความสับสนจนเกิดอันตรายได้

เช่น ถ้าไฟจราจรตรงสี่แยกเป็นสีแดง แต่ถัดออกไปอีก 40 เมตรมีไฟจราจรที่ทางม้าลายเป็นสีเขียว  เมื่อผู้ขับรถขับมาจนถึงหรือใกล้สี่แยกก็จะมองไม่เห็นไฟแดงที่สี่แยกแล้ว  แต่กลับจะเห็นแต่ไฟจราจรสีเขียวที่ห่างออกไปเล็กน้อย

โดยไม่ตระหนักว่าไฟเขียวนั้นเป็นของที่ทางม้าลาย ไม่ใช่ที่สี่แยก และขับต่อไปด้วยความเร็วเช่นเดิม จึงเกิดอุบัติเหตุชนกับรถอีกฝั่งหนึ่งที่จะเลี้ยวขวาสวนมา จากไฟเขียวอีกด้านหนึ่งของสี่แยกนั้น ได้

สิ่งนี้ต้องแก้ไขเพราะไม่ใช่เฉพาะอุบัติเหตุทางรถยนต์ด้วยกันเท่านั้น แต่หมายถึงอันตรายที่มีต่อคนเดินข้ามถนนด้วย

กล่าวคือ หากเป็นกรณีตรงข้าม คือไฟเขียวที่สี่แยก ให้ตรงไปได้  แต่ที่ทางม้าลายที่ห่างออกไปเพียงเล็กน้อยเป็นไฟแดง คนขับรถยนต์โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ บางคนอาจเร่งเครื่องเพื่อที่จะให้ผ่านไฟเขียวที่สี่แยกนั้นได้ทัน 

แต่เมื่อผ่านสี่แยกไปแล้วและยังเร่งเครื่องต่อไป จนถึงทางม้าลายซึ่งต้องหยุดเพราะเป็นไฟแดง แต่อาจไม่ทันเพราะระยะทางใกล้มาก และชนคนเดินเท้าจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้เช่นกัน

หรือไม่เช่นนั้น รถก็จะไปติดไฟแดงที่ทางม้าลาย  ทำให้จราจรติดขัดย้อนหลังไปถึงสี่แยก  ไฟเขียวที่สี่แยกนั้นก็จะใช้การไม่ได้ผลตามที่ตั้งใจไว้  และจราจรก็จะติดขัดเพิ่มขึ้นอย่างไม่ควรเป็น

หากเราไม่ได้จัดให้ระบบไฟจราจรทั้ง 2 ชุดนี้ทำงานอย่างสัมพันธ์กันและกัน จราจรติดขัดและอุบัติเหตุเช่นว่านี้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้บ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืนที่รถมักวิ่งเร็วกว่าช่วงจราจรติดขัดในเวลากลางวัน

ความขัดแย้งหรือไม่สัมพันธ์กันในการทำงานของไฟจราจร 2 ชุดเช่นว่านี้ สามารถใช้กล้อง ทำงานคู่กับ AI มาแก้ไขได้ โดยให้ AI อ่านข้อมูลจากกล้องแล้วสั่งการเปิดปิดไฟทั้งสองชุดให้สอดคล้องกัน ก็จะหลีกเลี่ยงหรือลดอุบัติเหตุรวมทั้งจราจรติดขัดเพิ่มเช่นว่านี้ได้ 

ข้อดีอีกอย่างหนึ่ง คือ หากเป็นช่วงเวลาจราจรน้อย รถน้อย ถนนว่าง  รวมทั้งไม่มีคนเดินข้ามถนน เช่น ในยามวิกาลหรือช่วงวันหยุดยาว  เราก็สามารถกำหนดให้ AI สั่งให้ไฟทั้งสองชุดเป็นไฟเขียวยาวนานมากขึ้น  ทำให้ประหยัดพลังงานและลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีกส่วนหนึ่งด้วย

จึงอยากเสนอให้ทั้งกรุงเทพมหานครและสำนักตำรวจจราจร ร่วมกันจัดหางบประมาณมาติดตั้งระบบ AI เพื่อสั่งงานการประสานไฟจราจรที่อยู่ติดกันเกินไปเช่นที่กล่าวมานี้ ให้ทั่วถึง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน

หมายเหตุ : เป็นความคิดส่วนตน มิใช่ขององค์กร