พายุหวู่ติบ ไม่เข้าไทย แต่ฝนถล่มอีสานใต้ ปภ. สั่งเฝ้าระวัง 24 ชม.

อธิบดี ปภ. สั่งทีมงานอีสานใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ 24 ชั่วโมง เตรียมพร้อมรับมือ ฝนตกหนัก และน้ำท่วมฉับพลัน จากอิทธิพลพายุ "หวู่ติบ" ที่ทำให้มรสุมมีกำลังแรงขึ้น
วันนี้ (12 มิ.ย. 68) นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 13 อุบลราชธานี ในวันนี้ (12 มิ.ย. 68) เวลา 16.30 น. โดยได้กำชับให้ทีม ปภ.ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะใน 4 จังหวัดที่รับผิดชอบ ได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลกระทบจาก "พายุหวู่ติบ" ที่คาดว่าจะส่งผลให้มีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักในบางพื้นที่
ในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ นายธนทร ศรีนาค ผู้อำนวยการศูนย์ ปภ. เขต 13 อุบลราชธานี พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายจำนงค์ สวัสดิ์วงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย, ร้อยตำรวจตรี สันฐิติ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ, ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการเตือนภัย และหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ ได้ให้การต้อนรับและเข้าร่วมประชุม
นายภาสกร บุญญลักษม์ กล่าวย้ำว่า ศูนย์ ปภ.เขต ถือเป็นหน่วยงานหลักที่มีความพร้อมทั้งด้านกำลังพลและเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ในการสนับสนุนจังหวัด โดยเฉพาะภาคอีสานตอนล่างที่มีความเสี่ยงสูงจากสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจากมีแม่น้ำสายหลักและสาขาหลายเส้นทาง จึงได้เน้นย้ำให้ศูนย์ ปภ.เขต ทำงานเชิงรุกในทุกมิติ โดยเฉพาะการประเมินสถานการณ์และการแจ้งเตือนภัยที่รวดเร็วและแม่นยำแก่ประชาชน
เฝ้าระวัง "พายุหวู่ติบ" และเตรียมกำลังเสริม
อธิบดี ปภ. ได้เน้นย้ำเป็นพิเศษให้เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดตามความเคลื่อนไหวของ พายุโซนร้อนหวู่ติบ ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำเข้าสู่ประเทศจีนตอนใต้ ในช่วงวันที่ 13-14 มิถุนายน 2568 ก่อนที่จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง แม้พายุนี้จะไม่ได้เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่จะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดอำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี และศรีสะเกษ มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักในบางพื้นที่
เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ อธิบดี ปภ. ได้กำชับให้เตรียมความพร้อมทั้งทีมปฏิบัติการเผชิญเหตุ และ อส.กู้ภัย ที่ ปภ. ได้จัดฝึกอบรมขึ้นเพื่อเป็นกำลังเสริมในการช่วยเหลือประชาชน รวมถึงเตรียมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้พร้อมใช้งานและบริหารจัดการเข้าพื้นที่เสี่ยงภัยล่วงหน้า เพื่อให้สามารถสนับสนุนการป้องกัน แก้ไขปัญหา และให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
บูรณาการทุกภาคส่วน รับมือภัยพิบัติยุคใหม่
นายภาสกร บุญญลักษม์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในปัจจุบันภัยพิบัติสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติที่รุนแรงและบ่อยครั้งมากขึ้น จึงขอให้ศูนย์ ปภ.เขต และจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือสาธารณภัยตลอดเวลา โดยประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนอย่างมีเอกภาพ เพื่อลดผลกระทบจากสาธารณภัย และให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด






