มีผลแล้ว! อสส.สั่งแนวทางใหม่ฟ้องคดี 'เมาแล้วขับ' ชงศาลริบรถด้วย

มีผลแล้ว! อสส.สั่งกำหนดแนวทางใหม่ พิจารณาคดี 'เมาแล้วขับ' หากมีพฤติการณ์ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตผู้อื่น ให้ชงศาลริบรถเป็นของกลางด้วย
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2568 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดี (สคช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยจากการขับรถในขณะเมาสุราก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายทรัพย์สินของผู้อื่น สำนักงานอัยการสูงสุดจึงได้ออกหนังสือเวียน การดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย และทรัพย์สินของผู้อื่น ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยทางถนนที่มีความรุนแรง และความเสียหายอย่างมากต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน
สำนักงานอัยการสูงสุดจึงกำหนดแนวทางปฏิบัติเมื่ออัยการได้รับสำนวนคดีที่มีการดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราแล้วให้พิจารณาว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหา เมาแล้วขับ มีลักษณะเป็นการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร มาตรา 43 (8) ด้วยหรือไม่ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าผิด และยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาดังกล่าวกับผู้เมาแล้วขับให้พนักงานอัยการสั่งให้ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหา และในการฟ้องคดีให้พนักงานอัยการขอให้ศาลสั่งริบรถของกลางด้วย กฎหมายคุ้มครองสิทธิ ของประชาชน ปรึกษากฎหมายกับอัยการฟรี สายด่วนโทรศัพท์ 1157
ทั้งนี้ในหนังสือของสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ลงนามโดย (นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์) รองอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด เมื่อ 9 มิ.ย.2568 เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราแล้วทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้อื่น โดยอ้างถึง หนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ อส (สฝปผ.) 0018/ว 380 ลงวันที่ 29 กันยายน 2549 เรื่อง ความผิดฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (8), 160 วรรคสาม
เนื่องจากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยจากการใช้ยวดยานทางถนนของประชาชนในประเทศไทยมีความรุนแรง ซึ่งเกิดความเสียหาย และต้องสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยเหตุส่วนหนึ่งมาจากผู้ขับรถในขณะเมาสุราแล้วก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่น ฉะนั้น เพื่อให้การดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่น เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยทางถนนที่มีความรุนแรงและเกิดความเสียหายอย่างมากต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน
สำนักงานอัยการสูงสุดจึงกำหนดแนวทางปฏิบัติกรณีพนักงานอัยการได้รับสำนวนคดีที่มีการดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราแล้วก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้อื่นไว้พิจารณา โดยให้พนักงานอัยการพิจารณาว่า พฤติการณ์ในการขับรถขณะเมาสุราของผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีมีลักษณะเป็นการขับรถโดยไม่คำนึงถึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2525 มาตรา 43 (8) ด้วยหรือไม่
หากพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ต้องหาได้ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือเดือดร้อนของผู้อื่นอันเป็นความผิดดังกล่าวด้วย และยังมิได้มิการแจ้งข้อหาดังกล่าวแก่ผู้ต้องหา ให้พนักงานอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาดังกล่าวเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหา และในการฟ้องคดีให้พนักงานอัยการขอให้ศาลสั่งริบรถของกลางตามหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ อส (สฝปผ.) 0018/ว 380 ลงวันที่ 29 กันยายน 2549 ตามที่อ้างถึงด้วย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์