ผบช.ภ.2 สั่งเฝ้าระวังสูงสุด ชายแดนตะวันออก หลังสถานการณ์ช่องบก

ผบช.ภ.2 สั่งด่วน ตำรวจทุกสถานี พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนตะวันออก "ตรึงกำลัง-คัดกรองเข้ม-บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด" หลังเกิดสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องบก
พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) ได้ออกคำสั่งด่วนไปยังสถานีตำรวจทุกแห่งในพื้นที่ โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนตะวันออก ได้แก่ สระแก้ว จันทบุรี และตราด เพื่อให้ “ตรึงกำลัง-คัดกรองเข้ม-บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด” หลังเกิดสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้ เพื่อปกป้องอธิปไตย คุ้มครองประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นในพื้นที่ชายแดน
พล.ต.ท.ยิ่งยศ เปิดเผยว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 2 เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังและสกัดกั้นเหตุร้าย โดยเฉพาะตามแนวชายแดนที่ติดกับประเทศกัมพูชา ซึ่งถูกกำหนดให้เป็น “พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ”
เพื่อยกระดับมาตรการดังกล่าว ผบช.ภ.2 ได้สั่งระดมกำลังจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ ตำรวจทางหลวง ตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ร่วมตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจสอบยานพาหนะ และบุคคลต้องสงสัยในเส้นทางหลัก เส้นทางรอง รวมถึงจุดพักคอยและที่พักอาศัยต้องสงสัย
“ต้องทำงานเชิงรุก สืบสวนหาข่าวในพื้นที่อย่างใกล้ชิด วางแผนเผชิญเหตุล่วงหน้า และสนับสนุนภารกิจของทุกหน่วยอย่างเป็นระบบ” พล.ต.ท.ยิ่งยศ กล่าวเน้นย้ำถึงการทำงานที่ต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ผบช.ภ.2 ยังได้สั่งให้จัดตั้ง “ชุดสืบสวน-เคลื่อนที่เร็ว-ยุทธวิธีพิเศษ” ลงพื้นที่ปฏิบัติงาน ณ จุดสำคัญต่างๆ อาทิ ตลาดนัด สถานีขนส่ง สถานที่ท่องเที่ยว และจุดที่มีประชาชนหนาแน่น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ความมั่นคง และพนักงานรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
ในส่วนของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พล.ต.ท.ยิ่งยศ ได้กำชับเจ้าหน้าที่สายตรวจและจราจรทุกนายให้ “เปิดสัญญาณไฟวับวาบ” ขณะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อแสดงตัวตนให้เห็นชัดเจน และให้ใช้ยุทธวิธี “Stop-Walk-Talk” ในการพบปะ พูดคุย และสร้างความเข้าใจ ตลอดจนขอความร่วมมือกับประชาชนในชุมชนอย่างต่อเนื่อง
มาตรการครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับความปลอดภัยเชิงรุกอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันการลักลอบกระทำผิด หรือก่อเหตุร้ายในพื้นที่ และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในรูปแบบใดอีก โดย ผบช.ภ.2 ได้ย้ำว่า “เจ้าหน้าที่ทุกนายต้องปฏิบัติภารกิจด้วยความตั้งใจสูงสุด เพื่อประชาชนและประเทศชาติ”
ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือสายด่วน 191 ตลอด 24 ชั่วโมง