จุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา ปรับเวลาเปิด-ปิดใหม่ เช็กเลยเปิด-ปิดกี่โมง

กองทัพบก ได้เริ่มบังคับใช้มาตรการควบคุมการผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตามมติของสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติและดูแลความปลอดภัยของประชาชน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองกำลังป้องกันชายแดนของกองทัพบกได้เริ่มใช้มาตรการนี้ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เวลา 19.00 น. เป็นต้นมา

มาตรการใหม่นี้ประกอบด้วยการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิด และเงื่อนไขการเข้า-ออกที่เข้มงวดขึ้น ณ จุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนทางการค้าต่างๆ โดยมีการกำหนดขั้นตอนที่แตกต่างกันไปตามพื้นที่และสถานการณ์ด้านความมั่นคงในปัจจุบัน

แนวชายแดนภาคตะวันออก : พื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังบูรพา

• จังหวัดสระแก้ว

จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก (อ.อรัญประเทศ) : เปิด-ปิดใหม่เวลา 08.00 – 16.00 น. อนุญาตเฉพาะการค้าขายหรือการทำงานเท่านั้น ห้ามคนไทยออกนอกประเทศเพื่อเล่นการพนันหรือท่องเที่ยว เอกสาร Border Pass / Passport ใช้ได้ไม่เกิน 7 วัน และห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปผ่าน

จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย–กัมพูชา (หนองเอี่ยน–สตึงบท) : เปิด-ปิดใหม่เวลา 08.00 – 16.00 น. กำหนดให้เป็นจุดผ่านแดนหลักสำหรับรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป

จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน (อ.คลองหาด) : เปิด-ปิดใหม่เวลา 08.00 – 16.00 น. อนุญาตเฉพาะการค้าขายหรือการทำงาน ห้ามนักพนันและนักท่องเที่ยวผ่าน เอกสาร Border Pass / Passport ใช้ได้ไม่เกิน 7 วัน และห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปผ่าน

จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา (อ.ตาพระยา) : เปิด-ปิดใหม่เวลา 08.00 – 12.00 น. ทหารจะใช้ดุลยพินิจในการคัดกรองบุคคลเข้า-ออกเป็นรายกรณี ห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปผ่าน

จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ (อ.อรัญประเทศ) : เปิด-ปิดใหม่เวลา 08.00 – 12.00 น. ทหารจะใช้ดุลยพินิจในการคัดกรองบุคคลเข้า-ออกเป็นรายกรณี ห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปผ่าน
 

แนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: พื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี

• จังหวัดอุบลราชธานี

จุดผ่อนปรนการค้าช่องอานม้า (ต.โซง อ.น้ำยืน) : เปิด-ปิดเฉพาะวันพฤหัสบดี 09.00 – 12.00 น. อนุญาตให้บุคคลผ่านเข้า-ออกได้ไม่เกินเขตตลาดของทั้งสองประเทศผ่านการแลกบัตร อนุญาตเฉพาะการนำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และไม่อนุญาตให้ยานพาหนะผ่าน การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต้องเป็นไปตามระเบียบและหลักสากล โดยพร้อมปิดจุดผ่านแดนเมื่อฝ่ายกัมพูชาเพิ่มกำลังจนส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย

• จังหวัดบุรีรัมย์

จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู (ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด) : เปิด-ปิดใหม่วันอังคาร พุธ และพฤหัสบดี 09.00 – 12.00 น. อนุญาตให้บุคคลผ่านเข้า-ออกได้ไม่เกินเขตตลาดของทั้งสองประเทศผ่านการแลกบัตร อนุญาตเฉพาะการนำสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น และไม่อนุญาตให้ยานพาหนะผ่าน การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต้องเป็นไปตามระเบียบและหลักสากล โดยพร้อมปิดจุดผ่านแดนเมื่อฝ่ายกัมพูชาเพิ่มกำลังหรือมีเหตุปะทะบริเวณชายแดนจนส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย

• จังหวัดศรีสะเกษ

จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ (ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์): เปิด-ปิดใหม่วันจันทร์ พุธ และศุกร์ 08.00 – 15.00 น. ใช้ Passport / Border Pass ยานพาหนะสามารถผ่านได้ตามระเบียบ จำกัดการส่งออกสินค้ายุทธภัณฑ์ตามกฎหมาย และงดส่งออกวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต้องเป็นไปตามระเบียบและหลักสากล โดยพร้อมปิดจุดผ่านแดนเมื่อมีเหตุปะทะบริเวณชายแดน

• จังหวัดสุรินทร์

จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม (ต.ด่าน อ.กาบเชิง): เปิด-ปิดใหม่วันจันทร์ พุธ และศุกร์ 08.00 – 15.00 น. ใช้ Passport / Border Pass ยานพาหนะสามารถผ่านได้ตามระเบียบ จำกัดการส่งออกสินค้ายุทธภัณฑ์ตามกฎหมาย และงดส่งออกวัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต้องเป็นไปตามระเบียบและหลักสากล โดยจะงดจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเมื่อฝ่ายกัมพูชาเพิ่มกำลังทหารในลักษณะที่ส่งผลต่อความปลอดภัย และพร้อมปิดจุดผ่านแดนเมื่อมีเหตุปะทะบริเวณชายแดน

แนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงใต้ : พื้นที่รับผิดชอบของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กองทัพเรือ)

จุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนการค้าทุกแห่งตามแนวชายแดนจังหวัดจันทบุรีและตราด จะเปิด-ปิดเวลา 08.00 – 16.00 น. โดยยึดหลักพิจารณาจากความจำเป็นในการค้าขาย การดำรงชีวิต และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

กองทัพบกเน้นย้ำว่า มาตรการเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นที่ 1 และ 2 ยังไม่มีการปิดจุดผ่านแดนถาวรใดๆ ยกเว้นช่องทางธรรมชาติที่ได้ปิดไปแล้ว ซึ่งเป็นไปตามสภาพแวดล้อม ความรุนแรง และภัยคุกคามในแต่ละพื้นที่ เนื่องจากปัจจุบันพบว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีการเพิ่มกำลังทหารในบริเวณแนวชายแดน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งไทยและกัมพูชาในพื้นที่ชายแดน

ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดการดำเนินการต่างๆ ได้จากเว็บไซต์กองทัพบก www.rta.mi.th หรือผ่านทาง Facebook: “กองทัพบก Royal Thai Army”, “ทีมโฆษกกองทัพบก” และ “กองทัพภาคที่ 2” เพื่อป้องกันข้อมูลบิดเบือน หรือส่งผลต่อความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน พร้อมกันนี้ กองทัพบกขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในทุกขั้นตอนและการดำเนินการ ภายใต้นโยบายของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม ที่ตระหนักและคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดนเป็นสำคัญ