คืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้นทะเลไทย พบปะการังเสียหายหนัก

คืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้นทะเลไทย พบปะการังเสียหายหนัก

คืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา MV.AYAR LINN เกยตื้นอุทยานฯ หมู่เกาะสุรินทร์ พบปะการังเสียหายหนัก 150 ตร.ม. เร่งดูดน้ำมันป้องกันรั่วไหล ซ้ำเติมทะเลไทย

อัปเดตสถานการณ์เรือเกยตื้นกระทบแนวปะการังไทย ความคืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา MV.AYAR LINN เกยตื้นอุทยานฯ หมู่เกาะสุรินทร์  พบปะการังเสียหายหนัก 150 ตร.ม. เร่งดูดน้ำมันป้องกันรั่วไหล ซ้ำเติมทะเลไทย ท่ามกลางอุปสรรคจากคลื่นลมแรงในฤดูมรสุม

คืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้นทะเลไทย พบปะการังเสียหายหนัก

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 นายเกรียงไกร เพาะเจริญ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์  รายงานความคืบหน้ากรณีเรือขนส่งสินค้าสัญชาติเมียนมา ชื่อ “MV.AYAR LINN” ชนแนวปะการังและเกยตื้นบริเวณอ่าวจาก ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยทีมเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน 2568

จากการสำรวจภายนอกตัวเรือ “MV.AYAR LINN” เจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยการแตกหัก รอยร้าว หรือรอยรั่วบริเวณใต้ท้องเรือ อย่างไรก็ตาม พบร่องรอยการแตกหักขนาดใหญ่ (แผ่นไม้หลุด/หัก) บริเวณกลางลำเรือ (กาบเรือ) ทางด้านขวา และบริเวณท้ายเรือ ซึ่งคาดการณ์ว่าอาจเกิดจากการกระแทกของคลื่น

คืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้นทะเลไทย พบปะการังเสียหายหนัก

คืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้นทะเลไทย พบปะการังเสียหายหนัก

ส่วนการตรวจสอบภายในตัวเรือ ไม่พบความเสียหายใต้ท้องเรือในส่วนที่สามารถเข้าถึงได้ ยกเว้นบริเวณที่ถูกกระสอบปูนซีเมนต์จำนวนมากทับอยู่ ทำให้ไม่สามารถสำรวจได้อย่างทั่วถึง ในส่วนของห้องเครื่อง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบถังน้ำมันเชื้อเพลิงและพบว่ามีน้ำมันอยู่ภายใน จึงได้ดำเนินการสูบน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมดออกจากถัง เพื่อป้องกันการรั่วไหลลงสู่ทะเล 

คืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้นทะเลไทย พบปะการังเสียหายหนัก

คืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้นทะเลไทย พบปะการังเสียหายหนัก

คืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้นทะเลไทย พบปะการังเสียหายหนัก

โดยได้รับความร่วมมือจากพี่น้องชาวไทยมอแกนในการขนย้ายน้ำมัน นับเป็นการป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อทรัพยากรใต้น้ำอันอุดมสมบูรณ์ของหมู่เกาะสุรินทร์

สำหรับการสำรวจความเสียหายของแนวปะการังในจุดเกิดเหตุ พบว่าระยะทางตั้งแต่จุดแรกที่เรือชนแนวปะการังไปจนถึงจุดที่เรือเกยตื้น รวมประมาณ 75 เมตร ปะการังไม่ได้รับความเสียหายทั้งหมด แต่มีเพียงปะการังลักษณะก้อนสูงที่ไม่พ้นท้องเรือได้รับความเสียหาย 

โดยจุดที่เสียหายมากที่สุดคือช่วงระยะ 45-75 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่เรือเกยตื้นและทับปะการังอยู่ เบื้องต้นประเมินพื้นที่ปะการังที่ได้รับความเสียหายประมาณ 150 ตารางเมตร

คืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้นทะเลไทย พบปะการังเสียหายหนัก

คืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้นทะเลไทย พบปะการังเสียหายหนัก

ชนิดปะการังที่ได้รับความเสียหายส่วนใหญ่ ได้แก่​ 

  • ปะการังสีน้ำเงิน (Heliopora coerulea) เสียหายมากที่สุด ประมาณ 80% 
  • ปะการังเขากวาง (Acropora sp.) เสียหายประมาณ 15% 
  • ปะการังโขด (Porites lutea) เสียหายประมาณ 5% 
  • ปะการังสมองร่องสั้น (Platygyra daedalea) แตกหักไปประมาณ 4 โคโลนี  
  • ปะการังดอกกะหล่ำ (Pocillopora)แตกหักไปประมาณ 3 โคโลนี​ 
  • ปะการังดาวเหลี่ยม (Leptastrea purpurea) แตกหักไปประมาณ 1 โคโลนี

จากการสำรวจล่าสุด ไม่พบการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเติมจากตัวเรือหรือเครื่องยนต์

อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ยังคงเผชิญกับอุปสรรคจากคลื่นลมแรง เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูมรสุม ทำให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยความยากลำบากและมีความเสี่ยงสูง​ 

ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปเพื่อฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติ

คืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้นทะเลไทย พบปะการังเสียหายหนัก

คืบหน้า เรือสินค้าเมียนมา เกยตื้นทะเลไทย พบปะการังเสียหายหนัก
 

อ้างอิง-ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช