อย. ยกระดับ คุมเข้ม 'ทรามาดอล' สกัดเยาวชนใช้ผิด ห้ามขายร้านยา

อย. ยกระดับคุมเข้ม "ยาทรามาดอล" สูตรยาเดี่ยว! ห้ามขายร้านยา สกัด "ยาเขียวเหลือง" มอมเมาวัยรุ่น เตือนภัยถึงชีวิต
นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยถึงมาตรการยกระดับการควบคุม ยาทรามาดอล (tramadol) ซึ่งเป็นยาแก้ปวดในกลุ่มโอปิออยด์ที่มีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีนและมีความเสี่ยงต่อการเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่พบว่ากลุ่มเด็กและเยาวชนมีการนำไปใช้ในทางที่ผิด โดยนำไปผสมกับยาแก้ไอ น้ำอัดลม น้ำต้มกระท่อม หรือวัตถุออกฤทธิ์อื่น ๆ เพื่อให้เกิดอาการมึนเมา สนุกสนาน หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ยาเขียวเหลือง"
ยาทรามาดอลสูตรยาเดี่ยวชนิดรับประทาน ซึ่งมีลักษณะเป็นยาแคปซูลเขียวเหลือง มีฤทธิ์บำบัดอาการปวดระดับปานกลางถึงรุนแรง โดยร่างกายสามารถรับได้ในปริมาณสูงสุดไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตาม ยานี้มีผลข้างเคียงหลายประการ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มึนงง ง่วงซึม ปวดศีรษะ มือสั่น ใจสั่น และประสาทหลอน ที่น่ากังวลคือ หากได้รับยาในปริมาณสูงตั้งแต่ 500 มิลลิกรัม หรือ 10 แคปซูลขึ้นไป จะเกิดอาการรุนแรงถึงชีวิตได้ เช่น ชัก ไข้สูง กล้ามเนื้อสลาย ลิ่มเลือดกระจายในหลอดเลือด และไตวายเฉียบพลัน
จากการพิจารณาอย่างรอบคอบของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหลายสาขาอาชีพ อย. จึงตัดสินใจ ยกระดับสถานะของยาทรามาดอลสูตรยาเดี่ยวชนิดรับประทาน ให้เป็น "ยาควบคุมพิเศษ" และจำกัดช่องทางการจำหน่ายจากเดิมที่สามารถขายได้ทั้งร้านขายยาและสถานพยาบาล ให้เหลือเพียง สถานพยาบาลเท่านั้น เพื่อควบคุมและป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิดให้เข้มงวดยิ่งขึ้น
เลขาธิการฯ อย. กล่าวย้ำว่า มาตรการควบคุมนี้มีผลบังคับใช้เฉพาะยาทรามาดอลสูตรยาเดี่ยวชนิดรับประทานเท่านั้น ส่วนยาสูตรผสมทรามาดอลกับยาพาราเซตามอล ไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับสถานะในครั้งนี้ เนื่องจากไม่พบการระบาดของการนำไปใช้ในทางที่ผิด เภสัชกรในร้านขายยายังคงสามารถจ่ายยาสูตรผสมดังกล่าวให้กับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้ เพื่อบำบัดอาการปวดในระดับปานกลางถึงรุนแรงได้ตามปกติ ซึ่งเป็นการรักษาการเข้าถึงยาที่จำเป็นของประชาชนไว้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการรักษาพยาบาลแต่อย่างใด







