เจ้าพระยาตอนล่าง ระดับน้ำเริ่มทรงตัว กรมชลฯ เฝ้าระวัง 24 ชม.

เจ้าพระยาตอนล่าง ระดับน้ำเริ่มทรงตัว กรมชลฯ เฝ้าระวัง 24 ชม.

กรมชลประทาน เผย ระดับน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เริ่มทรงตัวและลดลงแล้ว ยืนยันเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยสถานการณ์น้ำล่าสุด (2 มิถุนายน 2568) ว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ "พอใช้" แม้จะมีฝนตกหนักในบางพื้นที่จากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และหย่อมความกดอากาศต่ำ

เจ้าพระยาตอนล่าง ระดับน้ำเริ่มทรงตัว กรมชลฯ เฝ้าระวัง 24 ชม.

ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวมทั้งสิ้น 43,194 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 56% ของความจุรวม ซึ่งยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 33,296 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะ 4 เขื่อนหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวม 13,122 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 53% ของความจุรวม และยังสามารถรับน้ำได้อีก 11,749 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

การบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา

กรมชลประทาน ได้ปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ลงรวม 15 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน (จากเดิม 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน) พร้อมดำเนินการบริหารจัดการน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำฝนที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์อยู่ที่ 1,341 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที คิดเป็น 37% ของลำน้ำ และมีแนวโน้มทรงตัว มีการกระจายน้ำเข้าระบบชลประทานสองฝั่งรวม 329 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก่อนจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่อัตรา 1,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

เจ้าพระยาตอนล่าง ระดับน้ำเริ่มทรงตัว กรมชลฯ เฝ้าระวัง 24 ชม.

ผลกระทบต่อพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง

สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง อาทิ คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง และแม่น้ำน้อย อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยวันนี้ (15.00 น.) สถานีวัดน้ำ C.67 บริเวณสะพานหัวเวียง อำเภอเสนา รายงานระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 55 เซนติเมตร และมีแนวโน้มคงที่ ในขณะที่สถานีวัดน้ำ C.68 บริเวณตลาดเสนา ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 72 เซนติเมตร และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับสถานการณ์ในภาพรวม

กรมชลประทาน ยังคงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับแผนบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนรับทราบเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง