ไขปริศนาเสียงคล้ายน้ำเดือดใต้ดิน 'ภูเขาไฟกระโดง' รู้สาเหตุแล้ว

ไขปริศนาเสียงคล้ายน้ำเดือดที่ 'ภูเขาไฟกระโดง' ล่าสุด เขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง ชี้แจงเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ น้ำไหลผ่านโพรงใต้ดินจึงทำให้เกิดเสียงดังขึ้น
ความคืบหน้ากรณีเสียงปริศนาคล้ายเสียงน้ำเดือดที่บริเวณ 'ภูเขาไฟกระโดง' ล่าสุดวันนี้ (28 พฤษภาคม 2568) นายรณภพ ณรงค์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีมีการเผยแพร่คลิปเสียงคล้ายน้ำเดือดในบริเวณวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ผ่านช่องทางออนไลน์ เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างกว้างขวางนั้น ทาง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้
สำหรับพื้นที่ที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว อยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง ท้องที่บ้านเขากระโดง ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 1,450 ไร่ พื้นที่นี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในแนวเขตรอยเลื่อนที่มีพลังทางธรณีวิทยา และสภาพโดยทั่วไปเป็นป่าเต็ง-รัง ที่มีราษฎรในพื้นที่เข้ามาเก็บหาของป่าเพื่อการยังชีพตามวิถีชีวิตดั้งเดิม
คลิปดังกล่าวถูกบันทึกไว้เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 14.40 น. ภายหลังจากทราบเรื่อง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบุรีรัมย์ (ทสจ.บุรีรัมย์) ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และขอชี้แจงในประเด็นทางธรณีวิทยาว่า พื้นที่ใต้ดินของภูเขาไฟกระโดงซึ่งเป็นภูเขาไฟเก่าที่ดับสนิทแล้ว มีอายุกว่า 300,000 - 900,000 ปี นั้น มีลักษณะเป็นโพรงหินและมีแหล่งน้ำซับกระจายอยู่ทั่วไป
ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ส่งผลให้น้ำฝนจำนวนมากไหลบ่าและแทรกซึมลงไปตามรอยแตกของชั้นหินใต้ผิวดิน เมื่อน้ำไหลผ่านโพรงหรือช่องว่างใต้ดินเหล่านี้ จึงทำให้เกิดเสียงดังขึ้น คล้ายเสียงน้ำไหลหรือเสียงน้ำเดือดได้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังฝนตกหนักในพื้นที่ที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาเช่นนี้
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่และสื่อมวลชนในจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อลดความตื่นตระหนกและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับปรากฏการณ์ดังกล่าวแล้ว จึงขอประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนทราบโดยทั่วกัน และยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของภูเขาไฟหรือเป็นสัญญาณอันตรายแต่อย่างใด
อ้างอิงข้อมูล/ภาพจาก เขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง , กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช






