'แอนแทรกซ์' พ่นพิษ ฉุดส่งออกโคเนื้อ สูญรายได้กว่า 500 ล้าน

วันนี้ (19 พ.ค. 68) จากกรณีโรคแอนแทรกซ์ ระบาดในสัตว์เลี้ยงการเกษตร โค กระบือ ในหลายพื้นที่ และแม้จังหวัดนครพนมจะยังไม่พบการแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ในสัตว์เลี้ยง แต่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดในพื้นที่อื่น เนื่องจากเป็นจังหวัดชายแดนสำคัญที่มีการส่งออกโคเนื้อไปยังประเทศเวียดนามผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 นครพนม - คำม่วน
 

ปัจจุบัน เวียดนามมีความต้องการโคเนื้อสูงมาก โดยมีออเดอร์เฉลี่ยเดือนละ 10,000 ตัว สร้างรายได้หมุนเวียนสะพัด มูลค่าการค้าชายแดนเฉพาะการส่งออกโคเนื้อสูงถึงเดือนละ 300 - 500 ล้านบาท โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มียอดการส่งออกสูงถึง 10,000 – 15,000 ตัวต่อเดือน คิดเป็นมูลค่าตัวละประมาณ 50,000 – 80,000 บาท

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โรคแอนแทรกซ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เวียดนามระงับการนำเข้าโคเนื้อจากประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ทำให้การส่งออกโคเนื้อจากนครพนมต้องหยุดชะงักลง คาดการณ์ว่าหากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายและไม่สามารถกลับมาส่งออกได้ จะส่งผลให้มูลค่าการค้าชายแดนของจังหวัดนครพนมสูญหายไปเดือนละเกือบ 500 ล้านบาท
 

จากผลกระทบดังกล่าว กรมปศุสัตว์ จังหวัดนครพนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งดำเนินการเจรจากับประเทศลาวและเวียดนามอย่างใกล้ชิด เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาและให้การส่งออกโคเนื้อของไทยกลับมาดำเนินการได้โดยเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อในพื้นที่

พร้อมกันนี้ หน่วยงานภาครัฐยังได้วางแนวทางการส่งเสริมให้เกษตรกรในจังหวัดนครพนมเลี้ยงโคเนื้อเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากตลาดเวียดนามยังมีความต้องการสูง ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรกลุ่มนี้ นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำถึงมาตรการการดูแลและควบคุมโรคอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดต่างประเทศและรักษาโอกาสในการส่งออกโคเนื้อของไทยในระยะยาวต่อไป