รัฐบาล ย้ำ นิติบุคคล 720,000 ราย ต้องส่งงบการเงิน ล่าช้าถูกถอน

รัฐบาล ย้ำ นิติบุคคล 720,000 ราย ต้องส่งงบการเงิน ล่าช้าถูกถอน

ย้ำเตือนอีกรอบ รัฐบาล แนะ “นิติบุคคล” 720,000 ราย ต้องยื่นนำส่งงบการเงิน หากไม่ดำเนินการ มีโทษทางกฎหมาย และถูกถอนความเป็นนิติบุคคล

รัฐบาล ย้ำเตือนอีกรอบ “นิติบุคคล” 720,000 ราย ต้องยื่นนำส่งงบการเงิน หากไม่ดำเนินการ มีโทษทางกฎหมาย และถูกถอนความเป็นนิติบุคคล

รัฐบาล ย้ำ นิติบุคคล 720,000 ราย ต้องส่งงบการเงิน ล่าช้าถูกถอน
วันนี้ (19 พ.ค. 68) เวลา 08.45 น. นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพื่อสร้างโอกาสทางการค้า การลงทุนของภาคธุรกิจให้ทันสมัยมีความต่อเนื่อง ไม่ล่าช้าและครอบคลุมกระบวนงานทุกขั้นตอน  ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการ นิติบุคคล เร่งดำเนินการยื่นนำส่งงบการเงิน ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดซึ่งในขณะนี้เหลือเวลาไม่ถึง 1 เดือน 

โดยข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 30 เม.ย. 2568 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยตัวเลข ปี 2568 มีนิติบุคคลที่ได้นำส่งงบการเงินต่อกรมแล้ว ประมาณ 140,000 ราย จาก 860,000 ราย ซึ่งยังขาดอีก 720,000 ราย หรือคิดเป็น 83 % ที่ยังไม่ได้นำส่ง
 
นายอนุกูล กล่าวว่า การแจ้งงบการเงินแม้นิติบุคคลแต่ละประเภทจะมีรอบบัญชีสิ้นสุดแตกต่างกัน แต่ต้องนำส่งงบการเงินตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากส่งล่าช้าหรือไม่นำส่งจะมีโทษปรับตามกฎหมาย 

นิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบการเงินในปี 25688 ประกอบด้วย 

กรณีที่เป็นบริษัทจำกัด และบริษัทมหาชนจำกัดที่ใช้รอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2567 ต้องจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติงบการเงินภายใน 4 เดือนหลังจากสิ้นรอบบัญชี หรือภายในวันที่ 30 เม.ย.2568 และต้องนำส่งงบการเงินอย่างช้าที่สุดคือวันที่ 4 มิ.ย.2568 

รวมถึงห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน กิจการร่วมค้า และนิติบุคคลต่างประเทศที่ปิดรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2568 จะต้องนำส่งงบการเงินภายใน 5 เดือน หลังจากวันปิดรอบปีบัญชี โดยปีนี้สามารถนำส่งงบการเงินได้ถึงวันที่ 4 มิ.ย.2568 

สมาคมการค้า หอการค้าที่ปิดรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2567 หากจัดประชุมใหญ่อนุมัติงบการเงินในวันที่ 30 เม.ย.2568 จะต้องส่งงบการเงินภายในวันที่ 30 พ.ค. 2568 

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็ว รัฐบาล โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ขอแนะนำช่องทางการนำส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing  โดยขอให้นิติบุคคลดำเนินการแจ้งการนำส่งเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อลดความแออัดของการเข้าใช้งานในระบบ  อีกทั้งหากการนำส่งงบการเงินมีข้อบกพร่อง ยังสามารถที่จะมีเวลาแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
 

“สำหรับงบการเงินถือเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญ ที่ได้สรุปผลการดำเนินงาน ของกิจการ กรรมการ ผู้ถือหุ้น คู่ค้า นักลงทุน รวมทั้งผลประกอบการของธุรกิจตลอดทั้งปี ซึ่งข้อมูลในส่วนดังกล่าวนี้สามารถที่จะนำไปใช้ประกอบต่อการตัดสินใจ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าการลงทุน วิเคราะห์ แนวโน้มของผลการประกอบการกิจการทางธุรกิจได้ในอนาคต

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ประกอบการหรือนิติบุคคล มีการแจ้งงบการเงินภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ไม่นิ่งเฉยในเรื่องในเรื่องดังกล่าว ส่วนนี้จะแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและความมั่นคงของธุรกิจ 

ทั้งนี้ ขอให้ตระหนักว่า การส่งงบการเงินถือเป็นหน้าที่สำคัญที่นิติบุคคลต้องดำเนินการ หากไม่นำส่งต่อเนื่องเกิน 3 รอบปี บัญชีจะถูกถอนทะเบียนเป็นนิติบุคคลร้างและขีดชื่อออกจากฐานข้อมูลนิติบุคคลจะทำให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้อีกต่อไป” นายอนุกูล ระบุ