สพฐ. ย้ำ เปิดเทอม 2568 ครูไม่ต้องอยู่เวร ผอ. ห้ามเลี่ยงบาลี ขัด ครม.

“เปิดเทอม 2568” สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ย้ำโรงเรียนในสังกัด “ครูไม่ต้องอยู่เวร” ผอ. ห้ามเลี่ยงบาลี “เวรความปลอดภัย” หรือ “เวรสมัครใจ” ขัดมติ ครม.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ย้ำโรงเรียนในสังกัด “ครูไม่ต้องอยู่เวร” ในช่วง “เปิดเทอม 2568” ผอ. ห้ามเลี่ยงบาลี “เวรความปลอดภัย” หรือ “เวรสมัครใจ” สุ่มเสี่ยงขัดมติ ครม.
วันนี้ (19 พ.ค. 68) เวลา 08.30 น. นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้เปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 พร้อมกันทั่วประเทศแล้ว
โดย สพฐ. ได้วางแนวปฏิบัติ 5 ข้อ เพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการพัฒนานักเรียน ด้วยหลัก "เรียนดี มีความสุข" มุ่งเน้นการลดภาระที่ไม่จำเป็นของครู บุคลากร นักเรียน และผู้ปกครอง เพื่อให้สามารถทำภารกิจหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบได้อย่างเต็มที่
5 แนวทาง ให้สถานศึกษาปฏิบัติ เพื่อร่วมกันผลักดันเป้าหมายพัฒนานักเรียนได้อย่างมีคุณภาพ
1.ด้านความปลอดภัยของสถานศึกษา เน้นดูแลสวัสดิภาพนักเรียนทั้งในและนอกเวลาเรียน
2.ด้านการเสริมสร้างโอกาสในการเรียนรู้และสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น เยี่ยมบ้านนักเรียน 100% การจัดการเรียนเสริม และระบบแนะแนวที่ตอบโจทย์ตามบริบทผู้เรียน
3.ด้านการสร้างเครือข่ายและการสร้างความร่วมมือ ให้สถานศึกษาประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และชุมชน เพื่อร่วมกันดูแลความเรียบร้อยของโรงเรียน
4.ด้านงบประมาณ ให้ดำเนินการใช้จ่ายตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
5.ด้านแผนเผชิญเหตุ ให้สถานศึกษาเตรียมพร้อมรับมือเหตุและภัยพิบัติต่างๆ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเกิดเหตุ พร้อมเฝ้าระวังสิ่งเสพติด เช่น บุหรี่ไฟฟ้า และปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะเข้าถึงนักเรียน
เปิดเทอม 2568 ครูไม่ต้องอยู่เวร
นายคารม กล่าวถึง ประเด็นการ "ให้ครูอยู่เวร" ว่า สถานศึกษาทุกแห่งยังคงต้องปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 ซึ่งมีมติให้ยกเว้นไม่ให้ครูต้องปฏิบัติหน้าที่เวรโดยเด็ดขาด พร้อมเน้นย้ำว่าผู้บริหารสถานศึกษาห้ามใช้ถ้อยคำหรือออกคำสั่งในลักษณะที่ส่อไปในทางเดียวกัน เช่น "เวรความปลอดภัย" หรือ "เวรสมัครใจ" ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดต่อมติดังกล่าวได้
นายคารม ยังกล่าวเพิ่มเติม ว่า สถานศึกษาสามารถกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ได้ เช่น การจัดระบบเฝ้าระวังบุคคลภายนอกไม่ให้เข้ามาก่อเหตุ การห้ามพกพาอาวุธหรือสิ่งผิดกฎหมาย การแต่งกายให้สุภาพ และการไม่ก่อความวุ่นวายในพื้นที่โรงเรียน หากพบการกระทำที่ฝ่าฝืน ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง เนื่องจากโรงเรียนเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ที่ต้องปลอดภัยสูงสุด







