ตึก สตง.ถล่ม ไม่ใช่ปัญหาแค่คอร์รัปชัน | วิชัย กอสงวนมิตร

ดูเหมือนว่าคนจำนวนหนึ่งพากันสรุปง่ายๆ ว่า ตึก สตง.ที่พังทลายไป พร้อมกับความสูญเสียที่ต้องมีคนงานสังเวยชีวิตนับร้อยคน
ทั้งที่เกิดแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาที่ไกลออกไปนับพันกิโลเมตร และก็ไม่มีตึกอื่นใดที่พังเลยด้วยซ้ำไป มาจากการออกแบบที่ผิดพลาดและการคอร์รัปชันในการก่อสร้าง
โดยเฉพาะเรื่องการคอร์รัปชันนั้นเป็นไปอย่างกว้างขวางและมีมาตลอดในประเทศนี้ แต่หากไตร่ตรองให้ลึกซึ้งแล้ว ก่อนที่ตึกนี้จะถล่มลงมา มันมีสิ่งผิดปกติใหญ่โตมากมายเกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ และเกิดขึ้นทั่วไปในสังคมไทย
เริ่มต้นด้วยการวางแผนใช้เงินงบประมาณแผ่นดินจำนวนมากมายเกินความจำเป็น หน่วยงานราชการจำนวนมากพากันแข่งขันกันสร้างตึกใหญ่โต ทั้งที่มีจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่ได้มาก และไม่ใช่หน่วยงานบริการประชาชน มิหนำซ้ำยังเพิ่มเติมด้วยงบประมาณตบแต่งหรูหรามากมาย
ปัญหานี้เกิดนี้ในทุกระดับแม้กระทั่งอาคารเทศบาลตำบล, ที่ทำการ อบต. เกือบทั้งประเทศไทยที่พากันสร้างใหญ่โตมากมาย หลังจากวางแผนจะใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายแล้ว ก็ตั้งงบประมาณจัดจ้างผู้ออกแบบ ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ ฯลฯ ที่ปัจจุบันมีมากมายเต็มไปหมดในประเทศไทย
แม้กระทั่งรัฐมนตรี ส.ส. สมาชิกสภาทั้งระดับชาติถึงระดับท้องถิ่น ก็ต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ติดตามเต็มไปด้วย ที่ล้วนแล้วแต่หาคนใกล้ชิดพรรคพวกเข้ามารับตำแหน่งและเงินเดือน
มีจำนวนไม่น้อยก็เป็นเพียงคนในครอบครัวตนเองด้วยซ้ำไป แต่ให้มีตำแหน่งโก้หรูใหญ่โต แล้วไม่สามารถทำหน้าที่ให้สมกับเงินเดือนที่ได้รับ
ปัญหาการทำงานที่ไร้คุณภาพ คนมีความสามารถไม่ได้ทำงาน เอาคนที่แทบไม่รู้อะไรเลยมาทำงาน มีการยืมชื่อโดยให้ผลตอบแทนแล้วก็ไม่ได้มาทำหน้าที่ออกแบบหรือควบคุมงานจริง ปัญหานี้มีมาตลอดและมากมาย
ในสมัยหนึ่งเคยพบว่า มีบริษัทรับตรวจสอบบัญชีแห่งหนึ่งได้รับงานตรวจสอบบัญชีบริษัทกว่าห้าหมื่นแห่งในปีเดียว และครั้งนี้ก็เริ่มระแคะข่าวแล้วว่า วิศวกรที่เซ็นแบบคนหนึ่ง เซ็นรับรองแบบอาคารสูงถึงสามสิบโครงการในช่วงระยะเวลาเดียวกัน
ซึ่งฟังดูแล้วไม่น่าจะทำหน้าที่ได้ครบถ้วน แถมยังมีข่าวขนาดมีการปลอมลายเซ็นวิศวกรด้วย การไม่ทำหน้าที่แต่เซ็นรับเงินเดือนนั้น เป็นเรื่องที่ทำกันมากมายจนเป็นปกติ แม้กระทั่งสมาชิกวุฒิสภา
การปกปิดข้อมูลข่าวสารอันจำเป็นต้องเปิดเผยต่อสาธารณชน โครงการขนาดใหญ่ที่ใช้เงินภาษีราษฎรจำนวนมากนี้ หากไม่เกิดเรื่องใหญ่โตตึกถล่มขึ้นมาแล้ว ยังไม่มีใครทราบเลยว่าจะมีอะไรอยู่ในอาคารเหล่านี้บ้าง
บ่อยครั้งที่ราชการจะอ้างว่าเป็นความลับทางราชการ ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ไม่มีเหตุผลเลยด้วยซ้ำไป
ในเมื่อการสร้างอาคารและซื้อของใช้ต่างๆ มันไม่ได้เสียหายอะไรหากสาธารณชนหรือแม้ประเทศคู่แข่งที่เป็นศัตรูรู้ ปัจจุบันเราจึงแทบไม่รู้เลยว่าหน่วยงานรัฐจะใช้เงินทำอะไร และแม้กระทั่งจะทำอะไร อนุญาตให้ใครทำอะไร
กว่าจะรู้ก็ต่อเมื่อโครงการสร้างเสร็จหรือเกิดปัญหาขึ้นเท่านั้น แถมบางโครงการยังสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนจำนวนมาก
บริษัทที่เป็นนอมินีต่างชาติเต็มไปหมด กฎหมายไทยกำหนดให้คนต่างด้าวถือหุ้นธุรกิจได้สี่สิบเก้าเปอร์เซ็นต์ และซื้อคอนโดมิเนียมได้ไม่เกินครึ่งหนึ่งของโครงการเช่นกัน
แต่เป็นที่รู้กันมานาน และปฏิบัติกันทั่วไปว่า ได้อาศัยช่องว่างกฎหมายนี้ โดยให้คนไทยถือหุ้นห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ และใช้นอมินีถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพียงเล็กน้อยก็กลายเป็นสิ่งถูกกฎหมายแล้ว
ใครๆ ก็รู้กันว่ามีการทำกันแบบนี้มายาวนาน แต่ก็ไม่เคยมีความคิดจะหาทางอุดช่องโหว่กฎหมายนี้ ประเทศไทยจึงเต็มไปด้วยบริษัทต่างด้าวที่มีคนไทยที่เป็นคนสวนแม่บ้านหรือพนักงานขับรถเป็นเจ้าของร่วมด้วยมากมาย และก็ยังมีชาวต่างชาติจำนวนมากที่ใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาแอบทำงานในประเทศ
ขณะที่ทางการไทยหลงดีใจกับจำนวนนักท่องเที่ยวจอมปลอม หรือแม้กระทั่งผู้ทำผิดกฎหมายที่เข้าออกประเทศไทยเป็นประจำโดยใช้สิทธิฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว
หน่วยงานที่มีหน้าที่ต้องคุ้มครองดูแลผู้บริโภค มีอำนาจตามกฎหมายอยู่ในมือ แต่ไม่ตั้งใจทำหน้าที่ตนเอง จะเห็นได้ว่าสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจำนวนมากมายมีวางขายอยู่ทั่วไป ทั้งที่เรามีกฎหมายและหน่วยงานดูแลมาตรฐานอุตสาหกรรม แต่ก็ยังมีการผลิตเหล็กก่อสร้างที่ไม่มีคุณภาพและมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศด้วย
มีคำกล่าวมานานแล้วว่า การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้าไทยโดยไม่ต้องเปิดตรวจตู้คอนเทนเนอร์สามารถกระทำได้ และปัจจุบันสินค้าพืชผักผลไม้ทางเกษตรจำนวนมากที่เข้ามาขายให้คนไทยกิน ก็เต็มไปด้วยยาฆ่าแมลงสารพิษ
คนไทยจะต้องตายผ่อนส่งกันทั้งประเทศ และตายจากอุบัติเหตุหรือเกิดความเสียหายจากสินค้าที่ไม่มีคุณภาพอีกเท่าไร?
สิ่งเลวร้ายที่สุดอีกอย่างคือ ความไม่ได้เรื่องของตำรวจ อัยการ นักการเมือง ข้าราชการระดับสูง และแม้กระทั่งรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ที่ตั้งใจแน่วแน่ในการไปขจัดปัญหาที่ต้นตอสาเหตุ
เมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็พากันไปตรวจเยี่ยม ให้สัมภาษณ์ว่าจะตรวจสอบ จะลงโทษ ฯลฯ แต่ก็ไม่เคยเห็นมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนไหนที่แสดงความตั้งใจและเข้มแข็ง ที่จะเอาคนผิดมาลงโทษ และหาทางป้องกันปัญหาทำนองเดียวกันในอนาคต
และแม้กระทั่งสื่อมวลชนเอง ก็จะติดตามและทำข่าวเฉพาะในช่วงที่เป็นกระแสอยู่ในความสนใจ หลังจากนั้นทุกอย่างก็จะจางหายและล่องลอยไปตามสายลม
การทำงานแบบขอไปทีของหน่วยงานภาครัฐแต่เข้มงวดสุดๆ กับประชาชน พอมีเรื่องตึก สตง.ถล่มขึ้นมา คนไทยถึงได้รู้ว่า สตง.ได้ทำการตรวจสอบและเข้มงวดกับผู้รับการตรวจจนผิดปกติวิสัยคนในสังคม แม้กระทั่งครูดีเด่นยังถูกให้ออกจากราชการ
แต่หน่วยงานตนเองและแม้หน่วยงานรัฐจำนวนมาก กลับทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำ และแม้กระทั่งทำผิดระเบียบกฎหมายเสียเองก็มีไม่น้อย
ผมเคยตั้งข้อสังเกตมานานแล้วว่า หากหน่วยงานราชการทำผิดนอกจากไม่ยอมรับผิดแล้ว ยังแทบไม่เคยถูกลงโทษจากการที่หน่วยงานราชการทำผิดแล้วไปสร้างความเดือดร้อนหรือเสียหายให้กับประชาชนหรือภาคเอกชน
เรารู้กันมานานแล้วว่า ภาคธุรกิจจำนวนมากจำต้องทนกับการทำงานที่ล่าช้าและจุกจิกเกินความจำเป็น จนต้องใช้วิธีจ่ายเงินใต้โต๊ะเป็นค่าน้ำมันหล่อลื่น และระเบียบที่มีแต่เพิ่มขึ้นมากขึ้นทุกที ก็มีแต่ทำให้ต้องจ่ายเงินเพื่อเปิดทางมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
คิดแล้วได้แต่วังเวง มองไม่เห็นอนาคตประเทศไทยครับ! ปัญหาตึก สตง.ถล่มจึงเป็นเพียงก้อนภูเขาน้ำแข็งที่ลอยโผล่พ้นน้ำทะเลให้เห็นเพียงส่วนน้อยนิด ฉายให้เห็นการเน่าเฟะที่ยากยิ่งนักในการแก้ไขแล้วในเวลานี้
ใต้ภูเขาน้ำแข็งคือสารพัดปัญหาใหญ่ที่รอการแก้ไข หากไม่ดำเนินการใดก็คงไม่พ้นหายนะจนสิ้นชาติ.







