เกาะติดแม่น้ำกก ทส. เพิ่มถี่ตรวจวัด-เฝ้าระวังเข้ม หวังคลายปัญหา

ทส. ยกระดับการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำแม่น้ำกก หลังพบการปนเปื้อนสารหนู พร้อมเพิ่มความถี่ในการตรวจวัด หวังคลี่คลายสถานการณ์และสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในพื้นที่
วันนี้ (8 พ.ค. 68) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ระดมสรรพกำลังทุกภาคส่วน เร่งแก้ไขปัญหาสถานการณ์แม่น้ำกกปนเปื้อนสารหนูเกินค่ามาตรฐาน หลังพบความผิดปกติมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 สร้างความกังวลต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และเศรษฐกิจในพื้นที่
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง กระทรวงฯ ได้บูรณาการความร่วมมือกับ 17 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามสถานการณ์และหาแนวทางแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน
มาตรการสำคัญที่กำลังดำเนินการ ได้แก่ การใช้กลไกความร่วมมือทางการทูตและการทหาร โดยประสานกับประเทศเพื่อนบ้านผ่านกลไกลุ่มน้ำโขงเหนือ เพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ การนำเทคโนโลยีดาวเทียมและภูมิสารสนเทศจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม มาใช้ในการระบุแหล่งที่มาของปัญหาอย่างแม่นยำ รวมถึงการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภคและการสื่อสารสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนโดยกระทรวงมหาดไทย
นอกจากนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกและลำน้ำสาขา ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบการปนเปื้อนในสัตว์น้ำ และกระทรวงสาธารณสุขติดตามผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
ผลการตรวจสอบล่าสุดยืนยันความปลอดภัย
ถึงแม้จะพบสารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกก แต่ผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาโดยการประปาส่วนภูมิภาคและกรมอนามัย รวมถึงผลการตรวจสอบสัตว์น้ำโดยกรมประมง ยืนยันว่ามีความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งสอดคล้องกับผลการตรวจตัวอย่างปัสสาวะของประชาชนที่ไม่พบสารปนเปื้อน
ตั้งคณะอนุกรรมการระดับชาติขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา
ล่าสุด คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดิน โดยมีรองนายกรัฐมนตรี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นประธาน พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึง 29 หน่วยงานเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ กำหนดแนวทางแก้ไข และเจรจาระหว่างประเทศเพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษภายนอกประเทศ
เฝ้าระวังต่อเนื่องและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์
กรมควบคุมมลพิษได้เพิ่มความถี่ในการตรวจวัดคุณภาพน้ำเป็นเดือนละ 2 ครั้ง และกรมทรัพยากรน้ำเฝ้าระวังพื้นที่ปนเปื้อน พร้อมควบคุมการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ และเตรียมเครื่องจักรเพื่อป้องกันการปนเปื้อนไปยังลำน้ำสาขา
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังได้ประสานกรมกิจการชายแดนทหารเพื่อสนับสนุนข้อมูลคุณภาพสิ่งแวดล้อมและภาพถ่ายดาวเทียมจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เพื่อเร่งสืบหาแหล่งที่มาของการปนเปื้อนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกอย่างมีส่วนร่วม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อย่างยั่งยืน







