พายุเข้าไทย ฝนตกหนัก ทั่วไทยระวังน้ำท่วม ดินถล่ม 18 จว. รับฤดูฝน 68

จับตาพายุเข้าไทย พายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก ทั่วไทยเฝ้าระวังน้ำท่วม ดินถล่ม 18 จังหวัด ประกาศรายชื่อพื้นที่เสี่ยงภัย รับมือฤดูฝน - สรุปสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำอยู่ที่ 56%
อัปเดตสภาพอากาศวันนี้ จับตาพายุเข้าไทยครั้งใหม่ "พายุฤดูร้อน" ฝนตกหนัก ทั่วไทยเฝ้าระวังน้ำท่วม ดินถล่ม 18 จังหวัด ประกาศรายชื่อพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว กรุงเทพฯ เร่งเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝนเต็มที่
ส่วน สทนช. สรุปสถานการณ์น้ำล่าสุด ปริมาณน้ำรวมในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศอยู่ที่ 56% ของความจุเก็บกัก ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่บริหารจัดการได้ แต่ปริมาณน้ำใช้การที่ 36% อาจจะต้องพิจารณาถึงการวางแผนการใช้น้ำในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งที่อาจจะมาถึงในอนาคต
สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศไทยวันนี้ 7 พฤษภาคม 2568 เวลา 7.00 น. ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยที่อาจได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนสะสมและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง
ปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมงสูงสุดในแต่ละภูมิภาค
- ภาคเหนือ: จังหวัดลำพูน (43 มม.)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดอุดรธานี (62 มม.)
- ภาคตะวันตก: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (80 มม.)
- ภาคกลาง: จังหวัดสมุทรปราการ (50 มม.)
- ภาคตะวันออก: จังหวัดจันทบุรี (106 มม.)
- ภาคใต้: จังหวัดพังงา (132 มม.)
จับตา! สภาพอากาศวันนี้และแนวโน้มฝนที่จะเพิ่มขึ้น
วันนี้ ลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้หลายพื้นที่มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงต้องระวังฝนตกหนักในบางพื้นที่ เนื่องจากอิทธิพลของลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย
คาดการณ์สภาพอากาศที่ต้องระวัง
ในช่วงวันที่ 9 - 12 พฤษภาคม 2568 คาดการณ์ว่าความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นและอาจมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ขณะที่ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น
พื้นที่เสี่ยงภัย! เฝ้าระวังน้ำหลากและดินโคลนถล่ม
สทนช. เตือนให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและดินโคลนถล่มจากฝนตกหนักและปริมาณฝนสะสมในช่วงวันที่ 7-11 พฤษภาคม 2568 ในบางส่วนของพื้นที่ดังนี้
- ภาคเหนือ: บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย น่าน และพะเยา
- ภาคตะวันออก: บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- ภาคใต้: บริเวณจังหวัดชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง กระบี่ ตรัง และสตูล
ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรติดตามข่าวสารและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด
สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ
ปัจจุบัน ปริมาณน้ำรวมในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศอยู่ที่ 56% ของความจุเก็บกัก (45,196 ล้าน ลบ.ม.) และมีปริมาณน้ำใช้การ 36% (20,984 ล้าน ลบ.ม.)
เฝ้าระวังพิเศษ! อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำสูงเกินเกณฑ์
- ภาคเหนือ: อ่างเก็บน้ำแม่จาง มีปริมาณน้ำสูงกว่าเกณฑ์เก็บกักสูงสุด
นอกจากนี้ ยังมีแหล่งน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเก็บกักมากกว่า 80% ที่ต้องเฝ้าระวังอีก 33 แห่ง โดยกระจายอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ดังนี้
- ภาคเหนือ 8 แห่ง
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17 แห่ง
- ภาคตะวันออก 2 แห่ง
- ภาคใต้ 6 แห่ง
กทม. ขับเคลื่อนมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 อย่างเข้มข้น
กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ โดยมีการดำเนินการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ได้แก่
การดูแลระบบระบายน้ำ
- ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำระยะทาง 2,593 กม., ขุดลอกคลอง 190 กม., และเปิดทางน้ำไหล 970 กม.
การบำรุงรักษาสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำ
- ตรวจสอบและบำรุงรักษาสถานีสูบน้ำ 200 แห่ง, บ่อสูบน้ำ 349 แห่ง, ประตูระบายน้ำ 243 แห่ง, อุโมงค์ระบายน้ำ 4 แห่ง, และระบบหน่วงน้ำ (แก้มลิง และ Water bank) 37 แห่ง
ระบบตรวจวัดและคาดการณ์สภาพอากาศ
- เตรียมความพร้อมระบบตรวจวัดและคาดการณ์สภาพอากาศของศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และติดตามสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
การแก้ไขจุดเสี่ยงน้ำท่วม
- ติดตั้งระบบระบายน้ำชั่วคราวเพิ่มเติมในพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำท่วม เพื่อเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำ
กทม. ได้ดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝน 9 มาตรการอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีแผนปฏิบัติการ (action plan) ที่เตรียมพร้อมเมื่อเกิดสถานการณ์น้ำท่วม โดยได้จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องมือ และกำลังพล เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้อย่างทันท่วงที
อ้างอิง-ภาพ : สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ







