สถานการณ์อ่างเก็บน้ำ ล่าสุด คิดเป็น 59% พร้อมรับมือพายุทั่วไทย

สถานการณ์น้ำล่าสุดทั่วไทย อ่างเก็บน้ำโดยรวมยังคงมีปริมาณ 59% พร้อมรับมือพายุฤดูร้อนที่คาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ที่ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกอย่างใกล้ชิด

สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) รายงานสถานการณ์น้ำประจำวันที่ 29 เมษายน 2568 พร้อมเฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในบริเวณประเทศไทยตอนบน โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 29 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม 2568

จากรายงานปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง พบว่าทั่วประเทศมีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางกระจายตัว แต่มีบางพื้นที่ประสบกับฝนตกหนักถึงหนักมาก ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี เชียงราย ขอนแก่น เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ แพร่ นครพนม พังงา สกลนคร พิจิตร กาฬสินธุ์ และปทุมธานี
 

สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ยังคงอยู่ในระดับน้อยถึงปานกลาง ขณะที่ภาคกลางและภาคใต้มีระดับน้ำปานกลางถึงมาก

ในส่วนของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำกักเก็บคงเหลืออยู่ที่ 41,629 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 59% ของความจุ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเขื่อนที่มีปริมาณน้ำน้อยที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ เขื่อนสิรินธร เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนกิ่วลม เขื่อนแม่มอก เขื่อนลำตะคอง และเขื่อนคลองสียัด

สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ คาดการณ์สภาพอากาศในช่วงวันที่ 29 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม 2568 ว่า ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้เกิดแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ ประกอบกับสภาพอากาศร้อนในตอนบนของประเทศ ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวอาจเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักในบางพื้นที่
 

ขณะที่ภาคใต้ยังคงได้รับอิทธิพลจากลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้บริเวณนี้ยังมีฝนตกต่อเนื่อง และอาจมีฝนตกหนักในบางแห่ง

สำหรับสถานการณ์คลื่นลมในช่วงเวลาเดียวกัน คาดการณ์ว่าลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน จะส่งผลให้ทะเลฝั่งอ่าวไทยและทะเลฝั่งอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1.0 - 1.5 เมตร

ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดได้ทางเว็บไซต์ www.thaiwater.net และแอปพลิเคชัน ThaiWater เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

ที่มา: คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม