ชาวสวนปาล์มตรัง บุกศาลากลาง ร้องนายกฯแก้ปัญหาราคาตกต่ำ

ชาวสวนปาล์มตรัง บุกศาลากลาง ร้องนายกฯแก้ปัญหาราคาตกต่ำ

สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันตรัง บุกศาลากลางยื่นหนังสือถึงนายกฯผ่านผู้ว่าราชการตรัง เรียกร้องขอให้แก้ไขปัญหาผลทะลายปาล์มล้นโรงงานและราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้(23เม.ย.)  ที่หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง ได้รวมตัวยื่นหนังสือถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาผลทะลายปาล์มล้นโรงงานและราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันตกต่ำในจังหวัดตรัง โดยมี พันจ่าโท อนันต์ บุญสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นผู้รับหนังสือ

ตัวแทนสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง กล่าวว่า ในจังหวัดตรังมีเกษตรกรทำสวนปาล์มน้ำมันเป็นอาชีพหลักมากขึ้น มีพื้นที่ปลูกประมาณ 500,000 ไร่ ทำให้มีผลผลิตเพิ่มขึ้นจำนวนมากทุกปี และในช่วงเดือนมีนาคม- มิถุนายนของทุกปีจะมีผลผลิตปาล์มน้ำมันมากเพิ่มทุกปี และมักเกิดภาวะปาล์มล้นโรงงานสกัด เกษตรกรตัดปาล์มส่งลายเทไม่ได้ ลานเทรับซื้อน้อยลง ทำให้ราคาที่เกษตรกรได้รับต่ำกว่าปกติที่ควรจะได้ ซึ่งเหตุการณ์จะเกิดขึ้นติดต่อกันมาทุกปี สร้างความเดือดร้อนในวงจรของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน

โดยขณะนี้ได้มีวิกฤติเช่นปีที่ผ่านมาลานปาล์ม-โรงสกัด อ้างปาล์มล้น หยุดรับซื้อ กระทบชาวสวนขายผลปาล์มไม่ได้ ราคาลดลง เหลือ 4.20 - 4.80 บาทต่อกิโลกรัมและคาดว่าแนวโน้มราคาจะลงต่อเนื่อง

เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดการสูญเสียในระบบห่วงโซ่การผลิตปาล์มน้ำมันหลายประการ เช่น เกษตรกรไม่สามารถขายผลผลิตได้ ขายได้ในราคาต่ำกว่าราคาที่เป็นธรรมและขายผลปาล์มได้ยากขึ้น ทำให้มีรายได้ต่ำ กระทบต่อลานเทไม่สามารถส่งผลปาล์มน้ำมันเข้าสู่โรงงานได้ ติดคิวนาน เกิน 2 วัน ทำให้สูญเสียน้ำหนัก และคุณภาพผลปาล์มลดลง ผลักภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นกลับมาที่เกษตรกร

ประการต่อมาผลปาล์มล้นโรงงาน สกัดไม่ทันทำให้คุณภาพผลปาล์มลดลง เปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำก็จะผลักภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นกลับมาที่เกษตรกรเช่นกัน

จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดข้อสงสัยในประเด็นปัญหาคือมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องความเดือดร้อนนี้ของเกษตรกรหรือไม่ ปาล์มติดคิวส่งเข้าโรงสกัดไม่ได้เพราะอะไร เปอร์เซ็นต์นำมันต่ำเพราะอะไร และราคาต่ำเพราะเกิดจากการปั่นป่วนราคาในห่วงโซ่อุตสาหกรรมปาล์มหรือไม่

ดังนั้น สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรังในฐานะตัวแทนของเกษตรกรในจังหวัดตรังจึงขอให้ท่านหาแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยด่วน  

ทั้งนี้ พันจ่าโท อนันต์ บุญสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้สั่งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมเพื่อหารือการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรสวนปาล์มน้ำมันต่อไป

ตัวแทนสมาคมฯยังระบุด้วยว่า นอกจากนี้เมื่อวันที่ 9 เม.ย.2568 สมาคมฯ ได้มีหนังสือหาผู้บริหารกระทรวงพลังงานขอให้กลับมาใช้นโยบาย B7 ด้วยระดับราคา และ ผลผลิตที่เหมาะสม และยังได้ร่วมกับอีก 3 สมาคม เข้าไปพบสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) และได้ให้ข้อมูลที่ทำให้ภาครัฐเห็นด้วยว่าประเทศไทยจำเป็นต้องรักษาอุตสาหกรรมไบโอดีเซลไว้

"สมาคมเรากำลังร่างสรุปข้อมูล เพื่อนำเสนอ รมต.อุตฯ เพื่อให้ท่านช่วยหารือกับ รมต.พลังงาน ต่อไป ตามคำแนะนำของ สศอ."

นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้า กรมการค้าภายใน จะนัดประชุมวาระเรื่องการผลักดัน B7 ด้วย รวมทั้งสมาคมนำเสนอสถานการณ์อุตสาหกรรมไบโอดีเซล และแนวทางการบริหารอุตสาหกรรมเพื่อให้ต้นทุนไบโอดีเซลเหมาะสม และยั่งยืนต่อเจ้าหน้าที่สนพ.ด้วย