'ยาอีลาบูบู้' คืออะไร อันตรายแค่ไหน? กทม. เร่งหาทางป้องกัน

"ยาอีลาบูบู้" สารเสพติดร้ายที่มาในคราบตุ๊กตา! หลังพบผู้เคราะห์ร้ายดับแล้ว 2 ราย ในช่วงสงกรานต์ รองผู้ว่าฯ ทวิดา ถกด่วนหามาตรการป้องกัน หวั่นลามกลุ่มเยาวชน
วันนี้ (21 เม.ย. 68) รศ. ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ศอ.ปส.กทม.) ครั้งที่ 4/2568 ณ ห้องนพรัตน์ ชั้น 5 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร และระบบการประชุมทางไกล (ออนไลน์) โดย นพ. สุนทร สุนทรชาติ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานค ผู้แทนหน่วยงานภายนอก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าการทำงานในด้านต่าง ๆ ในระยะ 1 เดือน รวมถึงหารือแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เกิดผลสำเร็จตามที่ตั้งไว้
ทั้งนี้ หน่วยงานต่าง ๆ ได้มีการรายงานผลการดำเนินงานและความคืบหน้าในส่วนที่ตนรับผิดชอบให้ที่ประชุมรับทราบ รวมถึงมีการรายงานสถานการณ์ของยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะยาเสพติดชนิดยาอีที่แฝงมาในรูปของตุ๊กตา “ลาบูบู้” หรือ ยาอีลาบูบู้ ที่ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มีผู้ป่วย 3 ราย เข้ารักษาตัว หลังไปร่วมกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ
ผู้ป่วยทั้งหมดมีความเชื่อมโยงกับการใช้สารเสพติดที่เรียกกันในกลุ่มผู้ใช้ว่า “ขนม” หรือ “ลาบูบู้” ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย อีก 1 ราย อาการสาหัสและยังรักษาตัวในห้องไอซียู จึงจะต้องเร่งหาแนวทางป้องกันควบคู่ไปกับยาเสพติดชนิดอื่นเพราะจากรูปลักษณ์ที่เป็นเหมือนตุ๊กตาลาบูบู้อาจทำให้มีแนวโน้มที่จะระบาดได้ง่าย
ความอันตรายและผลกระทบต่อร่างกาย
การเสพ "ยาอีลาบูบู้" ที่มีส่วนผสมอันตรายและมีความเข้มข้นสูงเช่นนี้ ส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างรุนแรง ดังที่ปรากฏเป็นข่าวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา:
- หมดสติ : ผู้เสพหมดสติอย่างกะทันหัน
- กล้ามเนื้อเกร็ง : เกิดอาการกล้ามเนื้อเกร็งอย่างควบคุมไม่ได้
- หยุดหายใจ: ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว
- หัวใจหยุดเต้น : ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว นำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด
ลักษณะและส่วนผสมที่อันตราย
จากการตรวจพิสูจน์ของ สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. มีการตรวจพิสูจน์ยาเสพติดชนิด "ยาอี" ที่มีลักษณะคล้ายตัวการ์ตูน "ลาบูบู้" ที่ได้รับรายงานจากศูนย์พิษวิทยาฯ พบสาร MDMA หรือ ยาอี (Ecstasy) คีตามีน (Ketamine) และกาเฟอีน ซึ่งข้อสังเกต ยาอี “ลาบูบู้” จัดเป็นยาอีที่มีสารออกฤทธิ์หลัก MDMA ในปริมาณความเข้มข้นสูง และผสมกับสารออกฤทธิ์คีตามีน และมีกาเฟอีน เป็นส่วนผสมด้วย จึงเพิ่มการออกฤทธิ์ และทำให้เป็นอันตรายมากขึ้น (ยาอี โดยทั่วไป พบ MDMA เพียงร้อยละ 40-50)