รื้อซาก สตง. คืบหน้า 50% พบชิ้นส่วนมนุษย์ 18 เคส เร่งค้นหาผู้สูญหาย

ปฏิบัติการรื้อถอนซากตึก สตง. ถล่ม คืบหน้ากว่า 50% พร้อมข่าวเศร้า พบชิ้นส่วนมนุษย์แล้ว 18 เคส เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้สูญหายที่คาดว่ายังติดค้างใต้ซากอาคาร
แม้จะพบชิ้นส่วนผู้เสียชีวิตแล้วถึง 18 เคส แต่ความหวังในการพบผู้รอดชีวิตยังคงมีอยู่ เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้า รื้อถอนซากอาคาร สตง.ถล่ม อย่างไม่ย่อท้อ พร้อมเร่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลและอำนวยความสะดวกด้านจราจร
นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการตั้งแต่เมื่อวานนี้ (19 เม.ย.) ยืนยันว่า พบชิ้นส่วนและอวัยวะของมนุษย์ จำนวน 18 เคส พร้อมทรัพย์สินของผู้สูญหายจำนวนหนึ่ง ถูกส่งให้สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบและพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลแล้ว
ส่วนผลการดำเนินการรื้อซากอาคารถล่ม มีความคืบหน้าสามารถนำเศษซากอาคารออกจากพื้นที่ใส่รถบรรทุกได้มากกว่า 242 เที่ยว ทำให้พื้นที่อาคารถล่มในแต่ละโซนลดระดับความสูง และทำให้พื้นที่แคบลง สำหรับแผนวันนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งเคลียร์ซากอาคาร ออกจากพื้นที่ทั้ง 4 โซน โดยเฉพาะโซน C ที่เข้าถึงยาก จะมีการเพิ่มเที่ยวรถบรรทุกขนาดเล็กเข้ามาทำการขนย้าย ส่วนพื้นที่โซน A และโซน B ที่ทีมนานาชาติเคยตรวจพบสัญญาณชีพก่อนหน้านี้ เหลืออีกประมาณ 1 เมตร จะถึงพิกัดที่ถูกระบุเอาไว้ คาดว่ามีผู้ติดค้างอยู่บริเวณนี้เป็นจำนวนมาก
รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า สำหรับแผนการค้นหาผู้สูญหายที่พบชิ้นส่วนเป็นจำนวนมากถูกส่งให้กับสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจตรวจสอบนั้น เบื้องต้นได้ประสานสถานทูตไทนประจำเมียนมา ในการเก็บพันธุกรรม (ดีเอนเอ) นำมาเปรียบเทียบ รวมกับจำนวนที่เดินทางมาเก็บดีเอนเอที่สถาบันนิติเวช ขณะนี้ที่เก็บแล้วมีจำนวน 97 คน ซึ่งยืนยันว่าจะรื้อโครงสร้างของอาคารถล่มทั้งหมด เพื่อค้นหาร่างผู้สูญหาย และชิ้นส่วนอวัยวะทั้งหมดส่งตรวจให้สมบูรณ์มากที่สุด เพื่อส่งมอบให้กับญาติผู้เสียชีวิต ซึ่งต้องทำงานอย่างละเอียดและรอบคอบ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการกู้สร้างอาคารเพิ่มมากขึ้น
ส่วนแผนการจราจรในพื้นที่ หลังจากที่ผู้ประกอบการร้านค้า บริเวณฝั่งที่มีการปิดถนน ได้เข้าพูดคุยและหารือถึงแนวทางในการเปิดทางสัญจรเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้ แต่ไม่สามารถเปิดพื้นที่การจราจรได้ทั้งหมดเนื่องจากในพื้นที่ยังต้องดำเนินภารกิจในการรื้อถอนสร้างอาคารถล่ม รวมถึงยังต้องมีทีมแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมอยู่ในพื้นที่







