"หนุ่ม กรรชัย" สุดอัดอั้น โพสต์ร่ายยาวโดนด่าทำแต่เรื่องผัวเมีย

"หนุ่ม กรรชัย" ลั่นผมไม่ใช่ซูเปอร์แมน สุดอัดอั้นโพสต์ร่ายยาวหลังโดนด่าโหนกระแสทำแต่เรื่องผัวเมีย - ถูกคนในวงการสื่อแดกดัน ด้านแฟนๆแห่ให้กำลังใจ
วันที่ 19 เมษายน 2568 ผู้ประกาศและพิธีกรชื่อดัง "หนุ่ม กรรชัย" สุดอัดอั้นได้ออกมาโพสต์ร่ายยาวลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังถูกตำหนิรายการโหนกระแสทำแต่เรื่องผัวเมีย โดยข้อความระบุว่า
"ผมก็อยากจะทำในทุกๆ เรื่องที่ทุกคนร้องขอมานะครับ แต่ในโลกความเป็นจริง มันไม่สามารถจะทำอะไรแบบนั้นได้ เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ในหนึ่งสัปดาห์มีเรื่องราวมากมาย ซึ่งผมไม่สามารถหยิบจับมาได้ทุกเรื่อง สุดท้ายผมก็จะถูกตำหนิ ต่อว่า ด่าทอ ว่าทำไมไม่ทำเรื่องนั้น ไม่ทำเรื่องนี้ พอผมเห็น ผมฟังแล้ว โอ้โห ผมโคตรลำบากใจเลย อยากทำให้ทุกคนสมหวังนะครับ แต่ผมเองก็พูดอยู่บ่อยๆ ว่า ผมไม่ใช่ซูเปอร์แมน
แค่ทุกวันนี้ จากสิ่งที่ไม่เคยรู้ ผมก็ต้องเรียนรู้ ผมต้องหาความรู้เรื่องกฎหมาย ผมต้องหาความรู้ทางด้านการแพทย์ ผมต้องหาความรู้ทางด้านสิทธิเด็ก ผมต้องหาความรู้ทางด้านสังคมของทุกสังคม และอีกหลายอย่างมากๆ ปัจจัยในการทำงานของโหนกระแส มันยากมากๆ เลยนะครับ มันไม่ใช่จะทำเรื่องนี้แล้วมันทำได้เลยอย่างที่บางคนต้องการ บางวันผมต้องเห็นคำพูดแย่ๆ ของบางคน เช่น โหนกระแสไม่ทำหรอกเรื่องผู้มีอิทธิพล เรื่องตำรวจ เรื่องคนใหญ่คนโต ทำแต่เรื่องผัวเมีย
อันนี้บอกเลยว่า ความคิดแบบนี้มันอคติเกินไปครับ ลองเปิดใจแล้วไปดูให้ชัดๆ ก่อนว่า ผมทำเรื่องราวของผู้มีอิทธิพล หรือตำรวจแย่ๆ ทหารแย่ๆเยอะมากนะ ผมเสี่ยงมือ เสี่ยงตีน จนบางครั้งหาคำว่าความปลอดภัยแทบไม่เจอ แต่กลับมาบอกว่าผมทำแต่เรื่องผัวเมีย
บางวันตื่นมาเจอคนในวงการสื่อ บอกว่า วิเคราะห์ข่าวแทบตายคนดูไม่กี่หมื่น โหนกระแสทำเรื่องผัวเมียคนดูสองล้าน เยี่ยม! ผมไม่รู้หรอกว่าเค้าชื่นชมหรือแดกดัน แต่บางทีก็งงๆ ว่า ผมตัดกางเกงยีนส์ขาย แต่คุณตัดกางเกงสแล๊คขาย แต่ผู้บริโภคดันซื้อกางเกงยีนส์มากกว่า มันเป็นความผิดของผมเหรอครับ มันเป็นความผิดของคนที่ซื้อกางเกงยีนส์เหรอครับ ซึ่งถ้าคุณคิดจะแดกดัน ทำไมคุณถึงไม่เอาเวลาอัดคลิปแดกดันไปทำกางเกงสแล๊คของคุณให้มันแปลกใหม่ เพื่อจะได้มีคนไปจับ ไปจอง ไปซื้อกันเยอะๆ แทนที่จะออกมาพูดว่า กูอุตส่าห์ตัดกางเกงสแล๊คขาย แต่พวกมึงดันไปซื้อกางเกงยีนส์ เยี่ยม! มุมผมว่ามันไม่แฟร์เลยครับ
ฝากอีกนิดนะครับว่า เรื่องราวบางเรื่องที่ผมไม่ได้ทำ ไม่ใช่เพราะไม่อยากทำ แต่บางครั้งผมไม่ถนัดและผมไม่มีความรู้ทางด้านนั้นเพียงพอ ซึ่งการนำเสนอของหลายๆ ช่อง หลายๆ รายการดีกว่าผมเยอะมาก ผมจึงเกรงว่าถ้าผมทำจะกลายเป็นไปชักใบให้เรือเสียเปล่าๆ และประการสำคัญอีกอย่างคือ บางเรื่องแขกรับเชิญเค้าไม่พร้อมมาครับ ถึงอยากทำยังไงก็คงทำไม่ได้ครับ
อีกนิดนะครับ และในขณะที่บางคนถามว่าโหนกระแสให้อะไรกับสังคม แต่ผมกลับภูมิใจว่า มีท่านผู้พิพากษาบางท่าน บอกกับผมว่า ขอบคุณนะที่ทำให้คนไทยได้รู้ข้อกฎหมายมากขึ้น ถึงจะนำเสนอแบบกุศโลบายก็ตาม"







