เยาวชนเสี่ยงติดพนันสูง โฆษณาให้เครดิตฟรี ’หลุมพราง’ เล่นออนไลน์

เยาวชนไทยเสี่ยงติดพนัน สาเหตุสำคัญโฆษณาให้เครดิตฟรี สร้างหลุมพรางให้เข้าสู่การเล่นออนไลน์ มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน แนะแก้ พ.ร.บ.การพนันที่ใช้มา 90 ปี ให้ทันสมัย
ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้เดินหน้าผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพนัน ทั้งการยกร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ที่ส่วนหนึ่งจะมีการลงทุนกาสิโนในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของพื้นที่การลงทุนรวม
รวมทั้งมีการผลักดันยกร่างแก้ไข พ.ร.บ.พนัน ซึ่งได้ผ่านการรับฟังความเห็นและส่วนใหญ่เห็นด้วย เพื่อคุมเข้ม ปราบปราม เพิ่มโทษหนักการพนันครอบคลุมทั้งบ่อนและพนันออนไลน์
สำนักวิชาการ วุฒิสภา ได้สรุปงานวิจัย เรื่อง “พฤติกรรมการติดพนันออนไลน์: ปัจจัยเชิงสาเหตุ กระบวนการ ผลกระทบทางพฤติกรรมศาสตร์และแนวทางการช่วยเหลือผู้เรียนที่ติดพนันออนไลน์สำหรับครูแนะแนวในสถานศึกษา” โดย ผศ.ดร.วิไลลักษร์ ลังกา และคณะ
งานวิจัยดังกล่าวแล้วเสร็จเมื่อปี 2564 ซึ่งนำเสนอข้อมูลเพื่อค้นหาแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มผู้เรียนที่ติดพนันออนไลน์สำหรับครูแนะแนวในสถานศึกษา
งานวิจัยชิ้นนี้ได้สำรวจพฤติกรรมของกลุ่มตัวอย่าง 6,909 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็น 61.40% โดยส่วนใหญ่อายุ 17-20 ปี ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างเพศชายเคยเล่นพนันออนไลน์สูงกว่าเพศหญิง และกลุ่มตัวอย่างทั้ง ชายและหญิงเคยลองใช้สารเสพติดใกล้เคียงกัน ประมาณ 49%
ทั้งนี้ เมื่อจำแนกกลุ่มตัวอย่างออกเป็น ระดับชั้นการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างอาชีวศึกษามีการเคยเล่นพนันออนไลน์และลองใช้สารเสพติดสูงกว่ากลุ่มอื่น
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีสถานภาพครอบครัวบิดามารดาอยู่ด้วยกัน คิดเป็น 63.57% รองลงมาคือ บิดามารดาแยกทางกัน คิดเป็น 28.27% โดยกลุ่มตัวอย่างที่มารดาและหรือบิดาเสียชีวิต เคยเล่นการพนันออนไลน์สูงสุด และกลุ่มตัวอย่างที่บิดามารดาแยกทางกันหรือมีบิดา-มารดาเสียชีวิต มีการเคยใช้ สารเสพติดสูงกว่า กลุ่มบิดามารดาอยู่ด้วยกัน
ผลการศึกษาพบว่า 3 ลำดับของชนิดสารเสพติดที่กลุ่มตัวอย่างเคยใช้ ได้แก่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รองลงมาเป็น บุหรี่ และใบกระท่อม ในส่วนของประเภทการพนัน พบว่า หวยรัฐบาล กลุ่มตัวอย่างเคยเล่น สูงสุด รองลงมาคือ บาคาร่า และป็อกเด้ง/แบล็คแจ็ค ตามลำดับ
เยาวชนไทยกับการเสพติดพนันออนไลน์
การเติบโตของธุรกิจพนันออนไลน์ในประเทศไทยส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเยาวชน โดยเฉพาะนักเรียนในระบบการศึกษา รายงานล่าสุดพบปัจจัยหลักที่ดึงดูดเยาวชนเข้าสู่วงการพนัน ได้แก่ ความอยากได้เงินทางลัด การชักชวนจากเพื่อนและรุ่นพี่ รวมถึงการโฆษณาเครดิตฟรีที่สร้างความเข้าใจผิดว่าเป็นโอกาสในการสร้างรายได้โดยไม่มีความเสี่ยง
จากการศึกษาพฤติกรรมนักเรียน พบว่าจุดเริ่มต้นของการติดพนันมักเกิดจากปัจจัยภายในตัวบุคคล ได้แก่ ความต้องการเงิน ความอยากรู้อยากลอง และความสนุกตื่นเต้น ซึ่งเมื่อเล่นครั้งแรกและได้รับเงิน จะเกิดความรู้สึกว่าการพนันเป็นวิธีการหาเงินที่ง่ายและรวดเร็ว
นอกจากนี้ ปัจจัยแวดล้อมยังมีส่วนสำคัญ โดยพบว่านักเรียนหลายคนมาจากครอบครัวที่มีคนเล่นพนัน ทำให้มีต้นแบบและมองว่าการเล่นพนันเป็นเรื่องปกติ ซ้ำยังมีการโฆษณาเครดิตฟรีที่ดึงดูดให้เยาวชนทดลองเล่นโดยไม่ต้องลงทุน
ผลกระทบที่น่ากังวล
ผลการศึกษาระบุว่า การติดพนันออนไลน์ส่งผลกระทบต่อเยาวชนในหลายด้าน ทั้งด้านอารมณ์ เช่น ความหงุดหงิด เครียด และความโลภอยากได้เงินมากขึ้น จนนำไปสู่การขาดการยับยั้งชั่งใจและไม่สามารถควบคุมตนเองได้
ที่น่าตกใจคือ การศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่า กลุ่มเยาวชนที่ติดการพนันอย่างหนักมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงถึงร้อยละ 20 ชี้ให้เห็นถึงความรุนแรงของผลกระทบทางจิตใจที่อาจเกิดขึ้น
การเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา
ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาการติดพนันออนไลน์ในเยาวชน 3 ระดับ ได้แก่:
1. ระดับสถานศึกษา
- กำหนดนโยบายป้องกันการเล่นพนันออนไลน์อย่างเข้มงวด
- สร้างค่านิยมใหม่ "โรงเรียนปลอดการพนันทุกประเภท"
- พัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาการติดพนัน โดยความร่วมมือระหว่างครูประจำชั้น ครูแนะแนว และนักจิตวิทยาโรงเรียน
2. ระดับครอบครัว
- เน้นการเป็นแบบอย่างที่ดีในการไม่เล่นพนัน
- สร้างการสื่อสารเชิงบวกในครอบครัว ไม่ตำหนิหรือลงโทษเมื่อพบปัญหา
- ใส่ใจดูแลพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีของเยาวชน โดยเฉพาะการเล่นเกมออนไลน์ที่อาจเป็นช่องทางนำไปสู่พนัน
- สร้างความอบอุ่นและความสุขในครอบครัว เพื่อลดความเสี่ยงในการแสวงหาความสุขจากการพนัน
3. ระดับตัวนักเรียน
- พัฒนากระบวนการคิดวิจารณญาณและการรู้เท่าทันสื่อ
- ปรับเปลี่ยนเจตคติต่อการพนันออนไลน์ ให้เห็นผลกระทบระยะยาว
- เสริมสร้างทักษะทางสังคมและการสื่อสารเชิงบวก รวมถึงทักษะการปฏิเสธ
การคัดกรองและช่วยเหลือ
ระบบการช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพควรเริ่มจากการคัดกรองนักเรียนเป็นกลุ่มต่างๆ ได้แก่
- กลุ่มปกติ: เน้นการป้องกันและสร้างความตระหนักผ่านกิจกรรมโฮมรูมและแนะแนว
- กลุ่มเสี่ยง: แบ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ควรส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญหรือจิตแพทย์ และกลุ่มเสี่ยงน้อยที่ครูแนะแนวสามารถให้คำปรึกษารายบุคคลหรือกลุ่มได้
การแก้ปัญหาการติดพนันออนไลน์ในเยาวชนจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งสถานศึกษา ครอบครัว และตัวเยาวชนเอง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวในงานเสวนาโต๊ะกลม “Entertainment Complex Game Changer for Thailand” จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2568 ว่า การจะมีกาสิโนเป็นเรื่องใหญ่ และรัฐบาลจะทำการพนันออนไลน์ถูกกฎหมายด้วย นี่คือแฝดนรก ตีคู่มาด้วยกันน่าหวาดเสียวมาก
ทั้งนี้ หากจะเสนอเรื่องนี้ การคิดทำกาสิโน คือ พื้นที่เล่นพนันอย่างเข้มข้น จึงควรไปแก้ พ.ร.บ.การพนันที่ใช้มา 90 ปี ให้แข็งแรง ทันสมัย รองรับนโยบายพนันที่การเมืองอยากทำ โดยกำหนดโครงสร้าง หรือหน่วยงานควบคุมกำกับดูแลให้เข้มแข็ง สามารถออก พ.ร.บ.กาสิโน พ.ร.บ.พนันออนไลน์ ให้เป็น พ.ร.บ.ย่อย อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.การพนันได้
“ไม่แน่ใจว่าการออกกฎหมายเรื่องนี้ ต้องการให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษใหม่ แต่การกำกับดูแลไม่เข้มแข็ง จะทำให้กลายเป็นพื้นที่กฎหมายถูกยกเว้นหลายฉบับ และพื้นที่พิเศษเฉพาะกลุ่มคนพิเศษ”







