ปมร้อน เลือกตั้ง "ประธานโอลิมปิกไทย" พล.อ.วิชญ์ ส่งจดหมายร้อง IOC

ประเด็นร้อน เลือกตั้ง "ประธานโอลิมปิกไทย" หลัง "พิมล ศรีวิกรม์" ขึ้นนั่งประธานฯ "พล.อ.วิชญ์" ชี้ไม่โปร่งใส ส่งจดหมายร้อง IOC ตรวจสอบด่วน
กำลังเป็นประเด็นร้อนวันนี้ (25 มี.ค. 68) หลังจากที่ นายพิมล ศรีวิกรม์ ได้รับเลือกเป็น ประธานโอลิมปิกไทย คนใหม่ ท่ามกลางการถูกวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการเลือกตั้งว่าไม่โปร่งใส ล่าสุดมีรายงานว่า พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ออกมาเคลื่อนไหวส่งจดหมายร้อง คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ให้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน
โดยเนื้อหาในจดหมายที่ พล.อ.วิชญ์ ส่งไปยัง คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ระบุดังนี้ "ถึง คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เรียน คุณ Jerome POIVEY, รองผู้อำนวยการฝ่ายความสัมพันธ์สถาบันและธรรมาภิบาล ฝ่ายความสัมพันธ์คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ
เรียน คุณ James MACLEOD, ผู้อำนวยการฝ่ายโอลิมปิกโซลิดาริตีและความสัมพันธ์คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ
ผมขอส่งจดหมายฉบับนี้เพื่อรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการเลือกตั้งคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย (NOC Thailand) เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งมีเหตุการณ์ที่น่าสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสของกระบวนการเลือกตั้งดังต่อไปนี้
การประชุมสามัญประจำปีครั้งนี้ มีวาระการประชุมทั้งหมด 8 วาระ สำหรับสมาชิกสหพันธ์กีฬาทั้ง 37 แห่งของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย วาระสุดท้ายคือการเลือกตั้ง ซึ่งที่ประชุมได้เสนอและเห็นชอบให้ ศ.ดร.เจริญ วัฒนสิน ทำหน้าที่เป็นประธานการเลือกตั้ง โดยมีที่ปรึกษากฎหมายหนึ่งท่านและคณะกรรมการตรวจนับคะแนนสามท่าน
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ ศ.ดร.เจริญ วัฒนสิน ได้นำจดหมายฉบับหนึ่งลงวันที่ 20 มีนาคม (5 วันก่อนการประชุม) จากสมาคมนักกีฬาโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ซึ่งระบุถึงการเปลี่ยนแปลงรายชื่อของนักกีฬา 2 คนที่เข้ามาแทนที่นักกีฬาคนเดิม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลต่อการเลือกตั้ง
เนื่องจากเอกสารสำหรับการประชุมครั้งนี้ได้ถูกส่งออกไปตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม หนึ่งในทีมผู้สมัครได้ร้องขอให้ ศ.ดร.เจริญ วัฒนสิน ไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อก่อนการเลือกตั้ง แต่คำร้องขอดังกล่าวถูกปฏิเสธโดยไม่มีการพิจารณา ด้วยเหตุนี้ ทีมผู้สมัครดังกล่าวจึงตัดสินใจเดินออกจากที่ประชุมเพราะเห็นว่ากระบวนการดังกล่าวไม่เป็นไปตามข้อบังคับขององค์กร
แม้ว่ากระบวนการเลือกตั้งจะดำเนินต่อไปจนมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย แต่ความขัดแย้งดังกล่าวได้ส่งผลให้สมาคมกีฬาหลายแห่งต้องถอนตัวออกจากที่ประชุม ผมจึงเห็นว่าสถานการณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมและมีอคติ
ดังนั้น ผมขอให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากลพิจารณาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ว่ากระบวนการเลือกตั้งครั้งนี้ควรถูกยกเลิกและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ที่โปร่งใสและเป็นธรรม"