กรมการค้าภายใน ลุยจับ เอาเปรียบเกษตรกร เตือน กดราคารับซื้อ คุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน

กรมการค้าภายใน ลุยจับ เอาเปรียบเกษตรกร เตือน กดราคารับซื้อ คุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน

กรมการค้าภายใน ส่งสายตรวจเฉพาะกิจปูพรมตรวจเข้มทุกพื้นที่ จับจริง! ผู้ประกอบการเอาเปรียบเกษตรกร เตือน กดราคารับซื้อ โทษคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 140,000 บาท

กรมการค้าภายใน เข้มงวดตรวจสอบการรับซื้อและขนย้ายสินค้าเกษตร ป้องกันการเอาเปรียบเกษตรกร ล่าสุดจับกุมผู้กระทำผิด 2 ราย กรณีขนย้ายมันสำปะหลังผิดกฎหมาย และรับซื้อข้าวเปลือกโดยคิดค่าชั่งน้ำหนักผิดกฎหมาย ดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุดจำคุก 7 ปี พร้อมเตือนผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบการฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีทันที

 

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่ อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้สั่งการให้ติดตามตรวจสอบการรับซื้อ การนำเข้า และการขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะ มันสำปะหลัง ข้าว ปาล์ม และ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร และกำกับดูแลด้านราคาสินค้าเกษตรให้มีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้กรมการค้าภายในกำกับดูแลราคาสินค้าเกษตร ให้มีเสถียรภาพ เกิดความเป็นธรรม เป็นการยกระดับรายได้ของเกษตรกรไทย จึงได้สั่งการให้สายตรวจเฉพาะกิจกรมการค้าภายใน สนธิกำลังนายตรวจชั่งตวงวัด เจ้าหน้าที่กรมการค้าต่างประเทศ พาณิชย์จังหวัด ฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ ปูพรมทุกพื้นที่ตรวจสอบกำกับดูแลอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง

ขณะนี้ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจกรมการค้าภายในว่า ได้มีการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดแล้ว จำนวน 2 ราย รายแรกจับกุมผู้ทำการขนย้ายหัวมันสำปะหลังสด จำนวน 30,500 กก. จากประเทศกัมพูชา เข้ามาทางช่องทางด่านพรมแดนช่องจอม พื้นที่ จ.สุรินทร์ โดยไม่มีหนังสืออนุญาตการขนย้ายหัวมันสำปะหลังสดและมันเส้น ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนประกาศ กกร. ฉบับที่ 28 พ.ศ. 2567 เรื่อง การควบคุมการขนย้ายหัวมันสำปะหลังสดและมันเส้น

ส่วนรายที่สอง จับกุมท่าข้าวในพื้นจังหวัดพิจิตร รับซื้อข้าวเปลือกโดยคิดค่าชั่งน้ำหนักจากเกษตรกร ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนประกาศ กกร. ฉบับที่ 67 พ.ศ. 2567 เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรับซื้อ และการแสดงราคารับซื้อข้าวเปลือก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย ส่งพนักงานสอบสวนในท้องที่ที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยการกระทำดังกล่าวต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ กรมฯ ได้ส่งชุดสายตรวจเฉพาะกิจลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้อสินค้าเกษตรในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะข้าวเปลือกในพื้นที่แหล่งเพาะปลูกสำคัญของภาคกลาง ซึ่งอยู่ในห้วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกนาปรัง เช่น จังหวัดอ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ เป็นต้น พบว่า ผู้ประกอบการมีการแสดงราคารับซื้อไว้อย่างชัดเจน ใช้เครื่องชั่งและเครื่องวัดความชื้นที่มีมาตรฐาน โดยในพื้นที่ราคารับซื้อข้าวเปลือกเจ้า ความชื้น 15% อยู่ที่ 8,000 - 8,500 บาท/ตัน

ขอฝากเตือนถึงผู้ประกอบการรับซื้อ ผู้นำเข้าและขนย้ายสินค้าเกษตร ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะกรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

"กรณีลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตรหรือขนย้ายไม่เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต หรือไม่แสดงราคารับซื้อหรือแสดงไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หรือหาก กดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะดำเนินคดีอย่างเข้มงวด"

ทั้งนี้ หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการเอาเปรียบเกษตรกร สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

 

อ้างอิง กรมการค้าภายใน DIT