รู้จัก นางสงกรานต์ 'ทุงสะเทวี' พร้อมเปิดคำทำนาย ปี 2568

นางสงกรานต์ 2568 "ทุงสะเทวี" ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม เสด็จไสยาสน์หลับเนตรมาเหนือหลังครุฑเป็นพาหนะ พร้อมเปิดคำทำนายตลอดปี
เทศกาลสงกรานต์ เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่หลายคนตั้งตารอคอยที่จะได้พบปะสังสรรค์กับครอบครัว บางคนวางแผนเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ หรือ ปีใหม่ไทย ในช่วงวันที่ 13-14-15 เมษายน 2568 บางคนวางแผนเดินทางท่องเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์เฉลิมฉลองสนุกสนาน อีกสิ่งหนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจทุกปีนั่นคือ ความเชื่อเกี่ยวกับ "นางสงกรานต์" และคำทำนายดวงเมือง ช่วง วันสงกรานต์ ในแต่ละปี สำหรับปีนี้นางสงกรานต์ประจำปีมีชื่อว่า "ทุงสะเทวี"
เทศกาลสงกรานต์ 2568
สงกรานต์ เป็นประเพณีวันขึ้นปีใหม่ไทย ยึดถือปฏิบัติสืบเนื่องกันมาแต่โบราณ เป็นวัฒนธรรมประจำชาติ คำว่า สงกรานต์ มาจากภาษาสันสฤต แปลว่า ผ่าน หรือ เคลื่อนย้าย หมายถึง การย้ายของพระอาทิตย์เข้าไปในจักรราศีใดราศีหนึ่ง แต่ในความหมายที่คนไทยใช้ หมายถึง วันและเวลาที่พระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษในเดือนเมษายน
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศสงกรานต์ ปีพุทธศักราช 2568 โดย ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง มีรายละเอียด ดังนี้
ปีมะเส็ง (มนุษย์ผู้ชาย ธาตุไฟ) สัปตศก จุลศักราช 1387 ทางจันทรคติ เป็น อธิกวาร ทางสุริยคติ เป็น ปกติสุรทิน
วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ทางจันทรคติ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม 1 ค่ำ เดือน 5 เวลา 04 นาฬิกา 28 นาที 28 วินาที
นางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราค ภักษาหารอุทุมพร (มะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จไสยาสน์หลับเนตรมาเหนือหลังครุฑเป็นพาหนะ
วันที่ 16 เมษายน เวลา 08 นาฬิกา 27 นาที 36 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น 1387
ปีนี้ วันศุกร์ เป็น ธงชัย, วันศุกร์ เป็น อธิบดี, วันพฤหัสบดี เป็น อุบาทว์, วันอาทิตย์ เป็น โลกาวินาศ
ปีนี้ วันพุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 600 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 60 ห่า ตกในมหาสมุทร 120 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า ตกในเขาจักรวาล 240 ห่า นาคให้น้ำ 5 ตัว
เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 6 ชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผล 9 ส่วน เสีย 1 ส่วน ธัญญาหาร พลาหาร มัจฉมังสาหาร จะบริบูรณ์ อุดมสมบูรณ์ ประชาชนทั้งหลายจะเป็นสุขสมบูรณ์แล
เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีอาโป (น้ำ) น้ำมาก
คำทำนาย นางสงกรานต์ 2568 'ทุงสะเทวี'
นางสงกรานต์ 2568 นี้ ทรงพระนามว่า "ทุงสะเทวี" มีลักษณะที่โดดเด่นคือ ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม ทรงอาภรณ์แก้วปัทมราค มีภักษาหารเป็นผลอุทุมพรหรือผลมะเดื่อ พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จมาโดยประทับไสยาสน์หลับพระเนตรบนหลังครุฑซึ่งเป็นพาหนะ
ตามความเชื่อโบราณ การที่นางสงกรานต์ปี 2568 ทรงนามว่า "ทุงสะเทวี" ทัดดอกทับทิมและเสวยผลอุทุมพร มีนัยสำคัญที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหารและผลผลิตทางการเกษตรที่จะมีมากในปีนี้ ประชาชนจะอยู่ดีกินดี มีความสุขสมบูรณ์
การที่ ทุงสะเทวี นางสงกรานต์ ทรงถือจักรและสังข์ ซึ่งเป็นเครื่องหมายแห่งพระวิษณุหรือพระนารายณ์ แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์และอำนาจในการปกป้องคุ้มครองมนุษย์ ส่วนการเสด็จมาบนหลังครุฑ สัตว์พาหนะของพระนารายณ์ ยิ่งเสริมความเป็นสิริมงคลและแสดงถึงพลังอำนาจที่จะช่วยปกปักรักษาประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุข
นอกจากนี้ การที่นางสงกรานต์เสด็จมาในอิริยาบถไสยาสน์หลับพระเนตร อาจตีความได้ว่าปีนี้บ้านเมืองจะสงบสุข ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงหรือภัยพิบัติที่รุนแรงมากนัก
ประวัตินางสงกรานต์
ธรรมบาลกุมาร เป็นเทพบุตรที่พระอินทร์ประทานให้ลงไปเกิดในครรภ์ภรรยาเศรษฐี เมื่อโตขึ้นก็ได้เรียนรู้ภาษานก และเรียนไตรเภทจบเมื่ออายุได้เพียง 7 ขวบ จึงได้เป็นอาจารย์บอกมงคลต่างๆ แก่คนทั้งหลาย
จนวันหนึ่ง ท้าวกบิลพรหม ได้ลงมาถามปัญหากับธรรมบาลกุมาร 3 ข้อ โดยถ้าธรรมบาลกุมารตอบได้ก็จะตัดเศียรบูชา แต่ถ้าตอบไม่ได้จะตัดศีรษะธรรมบาลกุมารเสียเอง โดยธรรมบาลกุมารได้ขอตอบคำถามใน 7 วัน
เมื่อถึงเวลา ท้าวกบิลพรหม ก็มาตามสัญญาที่ให้ไว้ ธรรมบาลกุมารจึงนำคำตอบที่ได้ยินจากนกไปตอบกับท้าวกบิลพรหม ทำให้ท้าวกบิลพรหมแพ้ในการตอบคำถามครั้งนี้
และก่อนจะตัดเศียร ท้าวกบิลพรหม ได้เรียก ธิดาทั้ง 7 องค์ ซึ่งเป็นนางฟ้า ให้เอาพานมารองรับ เนื่องจากเศียรของท้าวกบิลพรหมเป็นที่รวมแห่งความไม่ดีทั้งปวง ถ้าวางไว้บนแผ่นดินไฟจะไหม้โลก ถ้าโยนขึ้นไปบนอากาศฝนจะแล้ง ถ้าทิ้งลงในมหาสมุทรน้ำจะแห้ง
ธิดาทั้ง 7 จึงมีหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันดูแลเศียรของท้าวกบิลพรหม และในทุกๆ ปี ก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาทำหน้าที่อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหม แห่ไปรอบเขาพระสุเมรุ เป็นเวลา 60 นาที แล้วประดิษฐานไว้ในถ้ำคันธุลี ในเขาไกรลาศ จึงเป็นที่มาของ นางสงกรานต์ โดยแต่ละนางจะทำหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันตามวันมหาสงกรานต์นั่นเอง
รู้จัก นางสงกรานต์ทั้ง 7
นางสงกรานต์ทั้ง 7 เดิมทีเป็นนางฟ้าอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นหญิงรับใช้ของพระอินทร์ และเป็นธิดาของท้าวกบิลพรหมเทพ ผู้เป็นตัวแทนแห่งพระอาทิตย์ ธิดาทั้ง 7 จึงเป็นตัวแทนของวันทั้ง 7 ในรอบสัปดาห์ การเลือกนางสงกรานต์ของแต่ละปีจึงถูกกำหนดจากว่า วันที่ 14 เมษายนตรงกับวันใดของสัปดาห์ นางสงกรานต์ประจำวันนั้นก็จะถูกเลือกให้รับหน้าที่อัญเชิญศีรษะเพื่อเคลื่อนผ่านพระอาทิตย์จากราศีมีนสู่ราศีเมษ ดังนี้
นางสงกรานต์ทุงสะเทวี
นางสงกรานต์ประจำวันอาทิตย์ ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม ทรงอาภรณ์ด้วยแก้วปัทมราช (แก้วทับทิม) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหารคืออุทุมพร (ผลมะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จมาบนหลังครุฑ
นางสงกรานต์โคราคะเทวี
นางสงกรานต์ประจำวันจันทร์ ทรงพาหุรัด ทัดดอกปีบ ทรงอาภรณ์ด้วยแก้วมุกดาเป็นเครื่องประดับ ภักษาหารคือเตลัง (น้ำมัน) พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังพยัคฆ์ (เสือ)
นางสงกรานต์รากษสเทวี
นางสงกรานต์ประจำวันอังคาร ทรงพาหุรัด ทัดดอกบัวหลวง ทรงอาภรณ์ด้วยแก้วโมรา ภักษาหารคือโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายทรงธนู เสด็จมาบนหลังวราหะ (หมู)
นางสงกรานต์มณฑาเทวี
นางสงกรานต์ประจำวันพุธ ทรงพาหุรัด ทัดดอกจำปา ทรงอาภรณ์ด้วยแก้วไพฑูรย์ ภักษาหารคือนมเนย พระหัตถ์ขวาทรงเข็ม พระหัตถ์ซ้ายทรงไม้เท้า เสด็จมาบนหลังคัทรภะ (ลา)
นางสงกรานต์กิริณีเทวี
นางสงกรานต์ประจำวันพฤหัสบดี ทรงพาหุรัด ทัดดอกมณฑา (ยี่หุบ) ทรงอาภรณ์ด้วยแก้วมรกต ภักษาหารคือถั่วงา พระหัตถ์ขวาทรงขอช้าง พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จมาบนหลังคชสาร (ช้าง)
นางสงกรานต์กิมิทาเทวี
นางสงกรานต์ประจำวันศุกร์ ทรงพาหุรัด ทัดดอกจงกลนี ทรงอาภรณ์ด้วยแก้วบุษราคัม ภักษาหารคือกล้วยและน้ำ พระหัตถ์ขวาทรงขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายทรงพิณ เสด็จมาบนหลังมหิงสา (ควาย)
นางสงกรานต์มโหธรเทวี
นางสงกรานต์ประจำวันเสาร์ ทรงพาหุรัด ทัดดอกสามหาว (ผักตบชวา) ทรงอาภรณ์ด้วยแก้วนิลรัตน์ ภักษาหารคือเนื้อทราย พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จมาบนหลังมยุรา (นกยูง)
และวันที่นางสงกรานต์อัญเชิญพระอาทิตย์เคลื่อนผ่านจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษนี้เองเป็นวันแรกของเทศกาลสงกรานต์หรือเรียกว่า วันมหาสงกรานต์ ขณะที่ วันเนา คือวันที่พระอาทิตย์เคลื่อนมาอยู่กึ่งกลางระหว่างราศีมีนและราศีเมษ ส่วนวันเถลิงศกคือวันที่พระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษอย่างสมบูรณ์จึงนับเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเข้าสู่ปีใหม่ของไทยเราอย่างเป็นทางการ







