อดีต ผกก.โจ้ ผูกคอดับ น้อง-แฟนสาว ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต แฉถูกผู้คุมทำร้าย

อดีต ผกก.โจ้ ผูกคอดับ น้อง-แฟนสาว ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต แฉถูกผู้คุมทำร้าย

อดีต ผกก.โจ้ ผูกคอดับในเรือนจำ ครอบครัวส่งร่างชันสูตรสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ด้าน น้อง-แฟนสาว ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เผยเข้าเยี่ยมล่าสุดไม่มีสัญญาณจะทำร้ายตัวเอง

กรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต "ผู้กำกับโจ้" ผู้ต้องหาในคดีคลุมถุงดำ ที่ผูกคอตายในเรือนจำกลางคลองเปรม โดยทางครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และได้มีการเคลื่อนย้ายร่างมาชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ในวันนี้ (8 มี.ค. 68)

 

น.ส.ทราย อายุ 28 ปี แฟนสาวของอดีต "ผกก.โจ้" ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อฯว่า พี่โจ้เขาถูกแกล้งมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จากผู้คุมท่านหนึ่ง ที่ผ่านมาเราก็นิ่งมาตลอด แต่ว่ามามีเรื่องถูกทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 68 ซึ่งตนได้เข้าไปที่เรือนจำวันที่ 10 ม.ค. 68 เขาก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง พอมีทนายเข้าไปเยี่ยมวันจันทร์เขาก็บอกทนายว่า เขาถูกขังซอยเหมือนเอาไปแยกขัง จากผู้คุมท่านนั้นที่กล่าวหาว่าเขามีความผิด การไปแยกขังนั้นเขาไม่ได้สมัครใจไป การลงโทษที่ไม่มีความผิดอย่างไรก็รุนแรง

"จากที่ทราบถูกทำร้ายด้วยการโดนต่อยที่ท้องจากผู้คุมท่านเดียว และทราบว่าผู้คุมท่านนี้ยังทำเช่นนี้กับนักโทษอีกหลายคนที่เคยมีปัญหากับนักโทษของเขาที่สูบยาเส้น เหมือนจุดเริ่มต้นที่ถูกแกล้งคือ พี่โจ้อยู่ในแดนสักพักนึง ข้างห้องมีการสูบยาเส้น พี่โจ้เลยไปขอร้องบอกดีๆ จากนั้นก็ถูกนักโทษกลุ่มนี้ และผู้คุมท่านนี้รังแกมาตลอด เริ่มรังแกตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยมีการเรียกไปว่ากล่าว ดูถูกเหยียดหยาม และทำร้ายร่างกาย พี่โจ้มีอาการเจ็บตาจากการตีแบด หมอให้ใส่แว่นตาดำตลอด ผู้คุมท่านนี้ก็ยึด"

 

แฟนสาวของอดีต ผกก.โจ้ เผยต่ออีกว่า ที่ผ่านมาได้ร้องเรียนไปยังผู้บัญชาการท่านเดิมกับที่ศาลแล้ว โดยมีการลงรับและเอกสารหาย ตนก็ส่งไปอีก และผู้บัญชาการท่านใหม่ก็ส่งไปใหม่ มีการยื่นคำร้องไปยังเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ สิทธิมนุษยชน อัยการสูงสุด เมื่อเข้าไปอยู่ในเรือนจำก็น้อมรับความผิดตลอด เมื่อมาโดนแกล้งก็รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย เมื่อขอความช่วยเหลือไปก็ไม่ได้รับความเป็นธรรม เราร้องเรียนไปยังเรือนจำก็ไม่มีความคืบหน้า ทางตำรวจจะเข้าไปสอบปากคำเรื่องการทำร้ายร่างกาย เมื่อมีผลชันสูตรทางผู้บัญชาการเรือนจำก็ไม่อนุญาติให้เข้าไป สภาพร่างกายล่าสุดจากการที่ถูกขังซอย ทำให้เขาไม่ได้รับอาหารที่ถูกโภชนาการ คือกินข้าวต้องกินข้าวไม่มีเนื้อสัตว์

สำหรับเรื่องความเครียด ก็เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปอยู่แล้ว ที่ติดใจคือทำไมไม่มีคนพาเขาไปโรงพยาบาล คือกลางดึกที่ผ่านมา ทางเรือนจำได้โทรมาแจ้งว่าเกิดเหตุขึ้น ขอแสดงความเสียใจด้วย ตนยังถามว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน และได้คำตอบมาว่า อยู่ที่โรงพยาบาล อยู่กับหมอ ตนจึงบอกว่าขอไปดูได้ไหม เรือนจำก็บอกว่าไม่ได้ มันเป็นกฏ พอรุ่งเช้าตนไปติดต่อขอดูกล้องวงจรปิด พบว่าไม่มีการช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีการเอาออกจากห้องขัง หรือใดๆ ทั้งสิ้น คือพี่โจ้เสียชีวิตตั้งแต่เวลาประมาณ 20.30 น.

ขณะที่ น.ส.ธนัญญา อายุ 34 ปี น้องสาว ผกก.โจ้ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา มีตำรวจเพื่อนเขาเข้าไปพร้อมกัน พี่โจ้ยังพูดถึงอนาคตอยู่เลยว่า ออกไปจะไปทำธุรกิจอะไรดี นั่งนับว่าอีกกี่ปีจะได้ออก และไม่มีสัญญาณว่าจะทำร้ายตัวเอง หลังเกิดเหตุได้ดูกล้องวงจรปิดเป็นบางช่วง จากที่ไปตรวจสอบพบว่าที่ข้อมือมีรอยและมีคราบเลือดที่พื้น แต่ยังไม่ทราบว่ามันเกิดจากอะไร คราบเลือดก็ไม่ถึงกับเยอะมากแต่ก็มีอยู่ และผ้าที่พบเห็นเหมือนผ้าเช็ดตัวธรรมดา แต่อาจจะบางหน่อย ตนก็ยังติดใจและอยากได้ความจริงว่าการเสียชีวิตเกิดจากอะไร