พัฒนา ธุรกิจท่องเที่ยว อย่างสร้างสรรค์

พัฒนา ธุรกิจท่องเที่ยว อย่างสร้างสรรค์

เรามักมองง่ายๆ ว่า ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ให้ไทยลำดับสูง โดยเฉพาะการที่คนต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทย การประเมินมูลค่ารายได้จากการท่องเที่ยวมักสูงเกินจริง

เพราะเป็นการประเมินแบบคาดการณ์ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งจะไปอยู่ที่นายทุนต่างชาติที่ทำธุรกิจด้านนี้ และส่วนที่ธุรกิจไทยได้ก็ได้กับคนจำนวนน้อย ไม่ได้กระจายสู่คนไทยส่วนใหญ่

เราไม่ควรเน้นการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ด้านเดียว เพราะการมีคนต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวและใช้บริการในไทยจำนวนมากนั้น มีต้นทุน มีแง่ลบหรือความเสียหายด้วย

เราควรคำนึงถึงต้นทุนทางธรรมชาติและต้นทุนทางสังคม ที่ส่วนรวมจะเป็นผู้รับความเสียหาย เช่น สภาพแวดล้อมเสียหาย ปัญหาของแพง ความเสื่อมทางวัฒนธรรม การคดโกง หลอกลวง อาชญากรรม ธุรกิจโสเภณี ฯลฯ

เราควรคิดถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน และช่วยกันส่งเสริมพัฒนาให้ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นประโยชน์ เป็นธรรม ต่อคนส่วนใหญ่ และระบบนิเวศอยู่ได้ยั่งยืนมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นแหล่งที่ถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีวิวภูเขา ป่าไม้ อากาศเย็น เป็นกรณีตัวอย่างที่เราควรพัฒนาได้อย่างสร้างสรรค์มากกว่านี้ รวมทั้งพื้นที่สูงคล้ายๆ กันหลายแห่ง

ถ้าผู้บริหารและภาคเอกชนร่วมมือกันตั้งใจทำให้ดีและเผยแพร่ข้อมูลให้คนรับรู้ได้มากขึ้น จะเป็นสถานที่ที่ทั้งคนต่างประเทศและคนไทย สามารถไปท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เพราะอากาศเย็นกว่าที่พื้นที่ราบแม้ในฤดูร้อนก็ตาม 

เขาค้อวันนี้มีคนไปลงทุนสร้างโรงแรม รีสอร์ท ขนาดต่างๆ การขายที่จัดสรร บ้านจัดสรร ร้านกาแฟ สวนดอกไม้ เพื่อเก็บเงินค่าเข้าชมกันมากมาย บางแห่งสวยดี

แต่เมื่อมองภาพรวมแล้วมีการก่อสร้างแบบกระจัดกระจาย เลอะเทอะมากขึ้นกว่าเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว โดยไม่ได้มีกฎหมายผังเมืองที่ดีดูแลควบคุมให้ดีพอ 

รวมทั้งวันนี้ยังมีวัดสมัยใหม่ที่ก่อสร้างพระพุทธรูปที่เน้นความใหญ่โตมากกว่าความงดงาม การเปิดสถานบริการที่บริการเครื่องดื่ม ฯลฯ เพื่อความบันเทิง เพราะหวังแต่ผลกำไรระยะสั้นมากเกินไป โดยไม่มีมาตรการดูแลที่ดีพอ ทำให้มีการทำลายป่า ภูมิประเทศ และการปล่อยน้ำเสียเพิ่มขึ้น

ปัญหาที่เขาค้อก็คล้ายกับที่อื่น คือธุรกิจเอกชนเติบโตมากกว่าประสิทธิภาพในการกำกับดูแลช่วยเหลือของหน่วยราชการ

ภาครัฐควรจะฟื้นฟูภูเขาหัวโล้นให้กลับเป็นป่าหรืออย่างน้อยปล่อยให้ต้นไม้ใหญ่ฟื้นขึ้นมาใหม่ นี่ไม่ใช่เรื่องเพื่อประโยชน์การท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เพื่อการอนุรักษ์ฟื้นฟูธรรมชาติ ระบบนิเวศซึ่งมีคุณค่าสูงกว่าด้วย 

ทั้งเขาค้อ ภูทับเบิกและที่อื่นๆ มีทั้งชาวเขาที่ยุคนี้หลายคนเป็นพ่อค้ามากขึ้น และชาวเมืองรุกล้ำที่สาธารณะ เข้าไปทำการเกษตรและอื่นๆ มากไป

รัฐบาลควรควบคุมดูแลอย่างโปร่งใส ยุติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐเลือกปฏิบัติและหรืออำนาจหาประโยชน์ส่วนตัว

ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากนักการเมืองอะลุ้มอล่วย เพราะต้องการหาเสียง ข้าราชการก็รับใต้โต๊ะหรือปล่อยปละละเลย เพราะเลือกมองแต่ด้านอยากส่งเสริมให้เศรษฐกิจโตด้านเดียว อ้างว่าเพื่อสนองนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐ

การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเขาค้อน่าจะปรับปรุงให้ดีกว่านี้ แม้ถนนจะอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ก็ต้องใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง คุณสุริยะ คณานิธิพงษ์ เจ้าของและผู้บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่พัก ร้านกาแฟที่เขาค้อมา กว่า 30 ปี ให้ความเห็นว่า

"ถ้ารัฐบาลสร้างทางรถไฟต่อจากแถวลำนารายณ์ไปชัยบาดาลขนานไปทางแม่น้ำหล่มสัก ผ่านเมืองศรีเทพ (ที่เป็นมรดกโลก) ด้วย ไปถึงอำเภอหล่มสักได้ จะช่วยให้คนเดินทางไปท่องเที่ยวศรีเทพและเขาค้อได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะคนสูงวัยที่นั่งรถไฟน่าจะสบายกว่านั่งรถยนต์แบบหลายชั่วโมง" 

เรื่องเครื่องบินยังคงเป็นไปได้ยาก เคยมีสนามบินเพชรบูรณ์ที่ต้องถูกทิ้งร้างไปเพราะสายการบินทดลองบินอยู่พักหนึ่งแล้วขาดทุน แต่ถ้าพัฒนาเขาค้อให้ดี คนรวย คนต่างชาติ อยากไปมากขึ้น การเดินทางโดยเครื่องบินในอนาคตที่อาจเป็นไปได้

นอกจากธุรกิจท่องเที่ยวแล้ว ธุรกิจสร้างบ้านพักสำหรับผู้สูงวัยอาจจะขายหรือให้เช่าสำหรับชาวต่างประเทศที่เกษียณและอยากมาใช้ชีวิตอยู่เมืองไทย เช่นที่เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน ฯลฯ ได้

แต่อำเภอแบบเขาค้อหรืออำเภอบนเขาอื่นๆ จะเป็นไปได้ต้องมีสถานพยาบาลและความสะดวกอื่นๆ รองรับพอเพียงได้ ถ้าจะพัฒนาอำเภอเขาค้อ ภูเรือ ด่านซ้าย จังหวัดเลย ฯลฯ เพื่อรองรับให้คนเกษียณมาพักระยะยาวได้ ต้องคิดเรื่องการพัฒนาด้านอื่นๆ อย่างครบวงจรด้วย

นอกจากธุรกิจท่องเที่ยวหรือที่พักคนสูงวัยแล้ว เขาค้อ ภูเรือ ฯลฯ น่าจะพัฒนาเรื่องการปลูกพืชผล ดอกไม้เมืองหนาว การทำเกษตรอินทรีย์ สมุนไพร ฯลฯ การพัฒนาพลังงานทางเลือก และการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมได้ ทั้งเป็นธุรกิจที่ดีและจะสอดคล้องกับการที่คนอยากมาใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีด้วย

พื้นที่ที่มีอากาศเย็นนั้นจะประหยัดการใช้พลังงานของอาคารต่างๆ ได้มาก ไม่จำเป็นใช้แอร์คอนดิชั่นเลย แม้แต่ในฤดูร้อน สำหรับเขตภูเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 700 เมตรขึ้นไปแค่พัดลมก็ค่อนข้างเพียงพอ 

ข้อควรคำนึงอื่นๆ คือควรพัฒนาให้คนในท้องถิ่นมีงานและรายได้ที่เหมาะสมทำอย่างทั่วถึงด้วย ไม่ใช่ให้กำไร รายได้ จากการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ไปเข้ากระเป๋าเจ้าของกิจการใหญ่ขนาดกลางเท่านั้น

ดังนั้นควรจะมีการพัฒนาโรงเรียน การฝึกอาชีพ สถานศึกษาระดับต่างๆ การพัฒนาสาธารณสุข การพัฒนาสวัสดิการทางสังคม ฯลฯ ควบคู่กันไป นี่ไม่ใช่เรื่องแค่เพื่อธุรกิจการท่องเที่ยว แต่เป็นเรื่องการพัฒนาสังคมอย่างครอบคลุมเป็นองค์รวม

การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมให้คนมีความเป็นอยู่สุขสบาย มีความขัดแย้ง มีปัญหาอาชญากรรมน้อย เป็นเรื่องที่จะชวนให้คนต่างชาติอยากมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้น พวกข่าวอาชญากรรม การคดโกง หลอกลวงนักท่องเที่ยว ทำให้คนขยาด ไม่อยากมา

การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมของประเทศไม่ใช่เรื่องการเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวม GDP โดยรวมเท่านั้น แต่อยู่ที่การพัฒนาทางเศรษฐกิจสังคมเพื่อคุณภาพชีวิตคนท้องถิ่นในทุกด้าน ทำให้ประชาชนมีฐานะรายได้ การศึกษา สาธารณสุข สวัสดิการสังคม ฯลฯ ที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง เป็นธรรม 

เป้าหมายที่สำคัญในการพัฒนาประเทศไม่ใช่แค่ความมั่งคั่งทางวัตถุ แต่คือการพัฒนาคุณภาพชีวิต ศิลปวัฒนธรรม คุณค่าที่ดีงามของคนส่วนใหญ่ และการอนุรักษ์/ฟื้นฟูระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนถึงรุ่นลูกหลานด้วย

เราควรใช้แนวคิดเศรษฐศาสตร์เพื่อระบบนิเวศเป็นแนวทางหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และปฏิรูปโครงสร้างทั้งทางเศรฐกิจการเมืองสังคมเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายของการพัฒนามนุษย์และสังคมอย่างแท้จริง.