ฝุ่น PM2.5 กลับมาพุ่งอีก กทม.จมฝุ่นพิษ อากาศแย่ กระทบสุขภาพ เขตบึงกุ่มสูงสุด

อัปเดต ค่าฝุ่น PM2.5 วันนี้ ค่าฝุ่นกรุงเทพฯ ล่าสุด ค่าฝุ่นบ่ายนี้ อากาศไม่ดี เตือน เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดย ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15:00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 44.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ระดับสีส้ม)

 

12 อันดับ ค่าฝุ่น PM2.5 เขตที่มีค่าฝุ่นสูงสุดในกรุงเทพมหานคร (กทม.)

1. เขตบึงกุ่ม 63.9 มคก./ลบ.ม.
2. เขตทวีวัฒนา 60.5 มคก./ลบ.ม.
3. เขตบางนา 59.8 มคก./ลบ.ม.
4. เขตคลองสามวา 57.8 มคก./ลบ.ม.
5. เขตมีนบุรี 54.6 มคก./ลบ.ม.
6. เขตหนองจอก 53.7 มคก./ลบ.ม.
7. เขตสายไหม 52.5 มคก./ลบ.ม.
8. เขตสาทร 52.4 มคก./ลบ.ม.
9. เขตบางเขน 52.2 มคก./ลบ.ม.
10. เขตบางพลัด 52.1 มคก./ลบ.ม.
11. เขตหนองแขม 52 มคก./ลบ.ม.
12. เขตคันนายาว 52 มคก./ลบ.ม.

กรุงเทพฯ เหนือ

43.7 - 52.5 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงเทพฯ ตะวันออก

37.9 - 63.9 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงเทพฯ กลาง

36.8 - 49.8 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงเทพฯ ใต้

37.9 - 59.8 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงธนเหนือ

39.4 - 60.5 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงธนใต้

36.3 - 52 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ข้อแนะนำสุขภาพ : คุณภาพอากาศระดับสีส้ม (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)

ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

 

GISTDA เผย จุดความร้อนไทยวานนี้พบ 264 จุด

พบมากสุดในพื้นที่เกษตร 92 จุด

เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ระบบ VIIRS และจากข้อมูลดาวเทียมดวงอื่นๆ ของเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่าประเทศไทยมีจุดความร้อนรวม 264 จุด

ทั้งนี้ ข้อมูลจากดาวเทียมระบุว่า จุดความร้อนในประเทศไทยเกิดขึ้นใน พื้นที่เกษตร 92 จุด พื้นที่เขต สปก. 65 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 58 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 31 จุด พื้นที่ชุมชนและพื้นที่อื่นๆ 18 จุด

5 อันดับจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด

1. ชัยภูมิ 47 จุด
2. ตาก 21 จุด
3. นครราชสีมา 18 จุด
4. ลพบุรี 15 จุด
5. กาฬสินธุ์ 14 จุด

จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านพบมากที่สุด

• พม่า 1,898 จุด
• กัมพูชา 918 จุด
• ลาว 434 จุด
• เวียดนาม 81 จุด
• มาเลเซีย 3 จุด

ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลปัจจุบัน ข้อมูลพื้นที่เสี่ยง ไฟป่า พื้นที่เผาไหม้ซ้ำซาก รวมถึงดาวน์โหลดข้อมูลย้อนหลังเพิ่มเติมได้ที่ disaster.gistda

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์