เด็กก็ไม่เว้น แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกนักเรียนเปิดห้อง ขู่หาเงินแสนโอนคริปโท

กรุงเทพธุรกิจ เตือนภัยอุทาหรณ์ เด็กก็ไม่เว้น! สดๆ ร้อนๆ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักเรียน เปิดห้องที่บางแค ขู่หาเงินแสนโอนคริปโท โชคยังดีด้านตำรวจรุดช่วยทัน

เมื่อวันที่ 12 ก.พ.68 เวลาประมาณ 23.45 น. บิดาของผู้เสียหาย เข้าพบ พงส.สน.เพชรเกษม กรุงเทพฯ แจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ของวันที่ 12 ก.พ.68 บุตรสาวได้ออกจากบ้านไปพร้อม

1. สร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท 1 เส้น,
2. หนัก 1 บาท 1 เส้น,
3. แหวน 1 สลึง 1 วง 

โดยบอกว่าจะออกไปทำธุระ ซึ่งต่อมาไม่สามารถติดต่อได้ เกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงได้เข้าแจ้งความ

ต่อมาทราบว่าผู้เสียหายมีการขอยืมเงินเพื่อนแต่เพื่อนไม่ให้ เพื่อนจึงได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ฯ โดย ผกก.สน.เพชรเกษม เชื่อว่า ผู้เสียหายน่าจะมีกลุ่มคนร้าย (คอลเซ็นเตอร์) หลอกลวงเพื่อเอาทรัพย์สิน

จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งออกติดตามตัวให้พบตัวโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งได้ประสานไปยัง ผกก.กก.สส.บก.น.9 เพื่อขอสนับสนุนข้อมูลทางเทคนิค จากการสืบสวนติดตามตัวพบว่าผู้เสียหายอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแค

จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ พบผู้เสียหายอยู่ภายในห้องพักของโรงแรม
 

สอบถาม ผู้เสียหายทราบว่าได้มีเจ้าหน้าที่จากบริษัทเครือข่ายโทรศัพท์ยี่ห้อหนึ่งแจ้งว่า ตนเองได้ไปเปิดเบอร์โทรศัพท์ และมีการพัวพันกับการกระทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ และการพนัน

จากนั้นได้มีการโอนสายให้พูดคุยกับ จ่าจรัญ ซึ่งอยู่ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ บอกว่า ตนได้ทำผิด พรบ.คอมฯ เกี่ยวกับเว็ปพนัน

ซึ่งบอกให้ตนหานำรหัสธนาคารของผู้ปกครองของตน ไปให้และห้ามบอกผู้ปกครองหรือญาติ ซึ่งผู้ปกครองของตนไม่ยินยอมให้

ทางแก็งคอลเซ็นเตอร์จึงได้บอกให้ตนหาเงินมา 100,000 บาท เพื่อที่จะไม่ดำเนินคดีกับทางผู้ปกครองด้วย

ตนจึงได้นำทองซึ่งเก็บไว้ภายในบ้านออกไปขายเพื่อให้ได้เงินจำนวนนั้นมา โดยทางแก็งคอลเซ็นเตอร์ได้ห้ามไม่ให้ตนบอกใครหรือติดต่อกับใครและห้ามกลับบ้าน

ให้หาโรงแรมเพื่อเปิดห้องอยู่คนเดียว ห้ามรับสายใครหรือต่อต่อกับใคร โดยเด็ดขาด และให้ตนโหลดแอป binance th แอปเทรดคริปโท และสมัครสมาชิก

จากนั้นให้เชื่อมกับบัญชีธนาคาร แต่ก่อนที่ตนจะทำธุรกรรมสำเร็จ เจ้าหน้าที่ฯได้ตามตัวพบเสียก่อน จึงได้ทราบว่าเป็นแก็งคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่ฯได้หยุดการทำธุรกรรมครั้งนี้ไว้ได้ทัน

จากนั้นได้พาผู้เสียหายมาที่ สน.เพชรเกษม ซึ่งเมื่อเจอกับผู้ปกครองได้กอดกันร้องไห้ และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยติดตามหาจนเจอ และไม่สูญเสียทรัพย์สิน

สาเหตุที่ตนเชื่อแก็งคอลเซ็นเตอร์ เนื่องจากข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีกับพ่อแม่ ตนกลัวจึงได้ทำตามที่คนร้ายสั่งการทุกอย่าง และที่สำคัญคนร้ายแต่งกายด้วยชุดตำรวจ จึงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างแน่นอน

 

ด้าน บิดาของผู้เสียหาย ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามหาลูกสาวจนเจอ ครั้งนี้ตนไม่ได้คิดว่าจะเสียเงินทองไปแล้วจะได้คืนหรือไม่ แค่ตามหาลูกให้เจอก็ดีใจมากแล้ว

ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยใจจริงที่ ช่วยตามหาไม่ทอดทิ้งตนเองและครอบครัว เป็นความประทับใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือ

พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว  ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวว่า กรณีนี้เป็นความโชคดีมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถไล่กล้องวงจรปิดและสืบสวนทางเทคนิคจนพบตัวน้องก่อนที่จะมีการโอนเงินให้กับคนร้าย

ส่วนในทางคดีก็ได้มีการประสานกับทาง ผกก.สส.บก.น.9 เพื่อหาความเชื่อมโยงในการดำเนินคดีกับคนร้าย และอยากจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า

1. วิธีการของคนร้ายจะอาศัยความกลัวของผู้เสียหาย
2. ข่มขู่ได้วิธีการต่างๆ เพื่อให้เกิดความกลัว
3. ที่สำคัญมีการแต่งกายคล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้เหยื่อเชื่อว่าเป็นตำรวจจริง 

ดังนั้น ขอแจ้งว่าไม่มีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานราชการใดที่จะให้ผู้เสียหายหรือประชาชนทั่วไปทำธุรกรรมในการโอนเงิน หรือสอบสวนคดีผ่านทางโทรศัพท์

หากพบวิธีการแบบนี้ให้เชื่อว่าเป็นกลุ่มคนร้ายอย่างแน่นอน และมีอะไรให้ติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สถานีตำรวจจะดีที่สุด

อ้างอิง ตำรวจนครบาล