สปสช. ชี้ 'มะเร็งรักษาทุกที่' ไม่ใช้ใบส่งตัว เว้นครั้งแรกต้องมีประวัติ

สปสช. เผยใช้แนวปฏิบัติ "มะเร็งรักษาทุกที่" ฉบับเดิม ไม่ใช้ใบส่งตัว แต่การเข้ารักษาครั้งแรกจำเป็นต้องมีใบประวัติที่วินิจฉัย
วันนี้ (13 ก.พ. 68) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า หลังจากที่ สปสช. ได้มีคำสั่งยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์มะเร็งรักษาทุกที่ฉบับใหม่ ที่จะบังคับใช้ 1 เม.ย. 68 แล้ว ซึ่งจะมีผลทำให้กลับไปประกาศหลักเกณฑ์ฯ ฉบับเดิม ปี 2566 -2567 และได้ส่งหนังสือแจ้งเวียนหน่วยบริการทั่วประเทศรับทราบแล้วนั้น
ล่าสุด สปสช. ได้หารือร่วมกับผู้บริหารโรงเรียนแพทย์ถึงขั้นตอนรายละเอียดต่างๆ ซึ่งทางผู้บริหารเห็นชอบร่วมกันในเรื่องการกลับไปใช้แนวปฏิบัติตามประกาศมะเร็งรักษาทุกที่ฉบับเดิม ซึ่งไม่ต้องใช้ใบส่งตัวจากหน่วยบริการประจำของผู้ป่วยในการประกอบการเบิกจ่าย
ทั้งนี้ ในการเข้ารับการรักษาครั้งแรกที่โรงพยาบาลที่เข้าร่วมมะเร็งรักษาทุกที่นั้น มีความจำเป็นที่จะต้องมีประวัติของผู้ป่วยจากโรงพยาบาลเดิมมาด้วย หรือส่งข้อมูลผู้ป่วย ซึ่งที่ผ่านมามีระบบอิเล็กทรอนิกส์ TCB Plus ของสถาบันมะเร็ง กรมการแพทย์ และ Health Link ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อใช้ลงทะเบียน รับส่งต่อและดูข้อมูลผู้ป่วยอยู่แล้ว โดยทางโรงพยาบาลที่รับส่งต่อสามารถดูข้อมูลผู้ป่วยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวนี้ได้
อย่างไรก็ตามระบบของหน่วยบริการประจำและโรงพยาบาลรับส่งต่อบางแห่งยังไม่เป็นระบบเดียวกันทั้งหมด ทำให้ไม่ใช่ทุกแห่งที่จะสามารถส่งหรือรับข้อมูลผู้ป่วยได้เหมือนกัน ยังมีโรงพยาบาลบางแห่งที่ยังไม่ได้ใช้ระบบ TCB Plus ของสถาบันมะเร็ง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ผู้ป่วยต้องขอประวัติจากหน่วยบริการประจำตัวมาด้วย ซึ่งจะเป็นประวัติที่ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งและสามารถใช้สิทธิได้ตามแนวทางมะเร็งรักษาทุกที่ ดังนั้นจึงขอแจ้งผู้ป่วยและญาติว่าตรงนี้เป็นขั้นตอนตามปกติของการรักษา ซึ่งเป็นส่งต่อข้อมูลประวัติการรักษามาให้โรงพยาบาลที่เข้าร่วมมะเร็งรักษาทุกที่ ไม่ใช่ใบส่งตัวเพื่อประกอบการเบิกจ่าย และใช้เฉพาะการเข้ารับบริการในครั้งแรกเท่านั้น
“จากการหารือร่วมกับเครือข่ายโรงเรียนแพทย์นั้น ระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาระบบและเชื่อมข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งแบบอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกันให้ครอบคลุมเป็นระบบเดียวกันทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ความจำเป็นของการใช้ประวัติการรักษาของผู้ป่วยที่เป็นกระดาษก็จะลดลงหรือหมดไป” เลขาธิการ สปสช. กล่าว







