กรมอุตุ พยากรณ์อากาศ ทั่วไทยกลางวันร้อน สูงสุด 38°C กทม. มีหมอกเช้า - ใต้ฝน 10%

กรมอุตุ พยากรณ์อากาศ ทั่วไทยอากาศร้อนตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 38°C เหนือ-อีสานยังหนาว มีหมอกเช้า ภาคใต้มรสุมอ่อนกำลัง มีฝนฟ้าคะนอง 10% ของพื้นที่
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ สภาพอากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และยอดภูมีอากาศหนาว ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งระมัดระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง และระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้ การสะสมของ ฝุ่นละออง-หมอกควัน บริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงค่อนข้างมาก โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อนลง
กรมอุตุ พยากรณ์อากาศประเทศไทย 18:00 น. วันนี้ - 18:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาว มีหมอกในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 15-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศเย็น มีหมอกในตอนเช้า อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 ม. ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 ม.
ภาคใต้ ฝั่งตะวันออก
อากาศเย็น มีหมอกในตอนเช้า มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 ม. บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 ม.
ภาคใต้ ฝั่งตะวันตก
เมฆบางส่วนกับมีอากาศร้อนตอนกลางวัน มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 ม. ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 ม.
กทม.-ปริมณฑล
อากาศเย็น มีหมอกในตอนเช้า อากาศร้อนตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
กรมอุตุ พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 13-19 กุมภาพันธ์ 2568
คาดหมายอากาศทั่วไป ในช่วงวันที่ 13-16 กุมภาพันธ์ 2568 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน แต่ยังคงทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
ส่วนในช่วงวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2568 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่เสริมเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 13-16 กุมภาพันธ์ 2568 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง และระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
ส่วนในช่วงวันที่ 17-19 กุมภาพันธ์ 2568 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง
สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง