พร้อมแล้ว! "วิวาห์ใต้สมุทร 2025" จ.ตรัง ชวน คู่รัก จดทะเบียนสมรส 13-15 ก.พ.นี้

พร้อมแล้ว! "วิวาห์ใต้สมุทร 2025" จ.ตรัง ชวน คู่รัก จดทะเบียนสมรส 13-15 ก.พ.นี้

เทศกาล "วิวาห์ใต้สมุทร 2025" จังหวัดตรัง ปีนี้พร้อมแล้วอย่างอลังการ เชิญชวน "คู่รัก" จดทะเบียนสมรส 13-15 ก.พ.นี้

ใกล้แล้วสำหรับงาน "วิวาห์ใต้สมุทร 2568" จดทะเบียนสมรส ล่าสุดวันนี้ (12 กุมภาพันธ์ 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรม งานเทศกาลแห่งความรักสีสันจังหวัดตรัง (เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทร 2025) ภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประเพณีจังหวัดตรัง วันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งจัดต่อเนื่องมากว่า 28 ปี และเคยได้รับการบันทึกเป็นสถิติโลกใน Guinness World of Record โดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะเป็นประธานในงานเทศกาลวิวาห์ใต้สมุทรในปีนี้

 

เทศกาลวิวาห์ใต้สมุทร 2025 จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมการแต่งงานของคนไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลในเดือนแห่งความรัก และร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.ตรัง คาดว่าจะช่วยเพิ่มการมาเยือนของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตและสร้างรายได้ให้กับชุมชน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริม Soft Power ของไทย ที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของวัฒนธรรมในภาคใต้

สำหรับการจัดงานปีนี้ทางจังหวัดได้บูรณาการร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมรณรงค์ให้ชาวตรังใส่เสื้อสีชมพูในช่วงเทศกาล นอกจากจะมีการจัดงานวิวาห์ใต้สมุทรแล้ว ยังมีกิจกรรมเดินขบวนพาเหรด LGBTQ การสนับสนุนสินค้า OTOP การให้ส่วนลดค่าที่พัก และส่วนลดค่าอาหาร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดอีกด้วย

โดยการจัดงานจะมี 2 รูปแบบ คือ "วิวาห์ใต้สมุทร" เป็นการดำน้ำจดทะเบียนสมรสบริเวณหินก้อนเดียว หน้าถ้ำมรกต และ "รักที่สุด กลางสมุทรอันดามัน" เป็นการจดทะเบียนสมรสที่เกาะกระดาน ชายหาดที่ดีที่สุดในโลก

 

ในปีนี้มีความพิเศษคือมี คู่รัก LGBTQ ร่วมจดทะเบียนสมรส โดยจังหวัดให้ความสำคัญกับสมรสเท่าเทียม และความรักทุกรูปแบบ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่ใช้เป็นจุดในการจัดพิธีจดทะเบียนสมรสใต้ท้องทะเล คือ บริเวณหน้าถ้ำมรกต และ เกาะกระดาน ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามติดอันดับโลก

"รัฐบาลให้ความสำคัญกับการจัดงานในครั้งนี้ และมุ่งหวังว่าเทศกาลวิวาห์ใต้สมุทรจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางแห่งความรักที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนจากทุกมุมโลกให้มาเยือน" นางสาวศศิกานต์ กล่าว

ขอบคุณภาพจาก สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง