ค่าฝุ่น PM2.5 ล่าสุด ค่าฝุ่นบ่ายนี้ เตือน 17 เขต กทม. กระทบสุขภาพ หนองแขมสูงสุด

ค่าฝุ่น PM2.5 วันนี้ อัปเดต ค่าฝุ่น กทม. ล่าสุด "ค่าฝุ่นบ่ายนี้" ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15:00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 34.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง (ระดับสีเหลือง)

 

12 อันดับ ของ ค่าฝุ่น PM2.5 เขตสูงสุดในกรุงเทพมหานคร

• เขตหนองแขม 48.6 มคก./ลบ.ม.
• เขตลาดกระบัง 46.9 มคก./ลบ.ม.
• เขตหนองจอก 45.8 มคก./ลบ.ม.
• เขตบางนา 43 มคก./ลบ.ม.
• เขตบางกอกน้อย 42.5 มคก./ลบ.ม.
• เขตพระโขนง 41.9 มคก./ลบ.ม.
• เขตภาษีเจริญ 41.7 มคก./ลบ.ม.
• เขตมีนบุรี 40.7 มคก./ลบ.ม.
• เขตคลองสามวา 40.6 มคก./ลบ.ม.
• เขตบางขุนเทียน 40.3 มคก./ลบ.ม.
• เขตทวีวัฒนา 39.3 มคก./ลบ.ม.
• สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม 39.2 มคก./ลบ.ม.

 

กรุงเทพเหนือ

32.6 - 37.5 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

กรุงเทพตะวันออก

31.6 - 46.9 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

กรุงเทพกลาง

25.2 - 38.8 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

กรุงเทพใต้

26.4 - 43 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

กรุงธนเหนือ

32.7 - 42.5 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

กรุงธนใต้

33.8 - 48.6 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ข้อแนะนำสุขภาพ : คุณภาพอากาศระดับสีส้ม (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ)

ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

จุดความร้อนไทยวานนี้พุ่ง 881 จุด พบมากสุดในพื้นที่ป่าสงวนฯ พม่าแชมป์ทะลุ 1,889 จุด

กระทรวง อว. โดย GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ระบบ VIIRS และจากข้อมูลดาวเทียมดวงอื่นๆ ของเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่า ประเทศไทยมีจุดความร้อน รวม 881 จุด

ทั้งนี้ ข้อมูลจากดาวเทียมระบุว่า จุดความร้อนในประเทศไทยเกิดขึ้นใน

• พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 300 จุด
• พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 208 จุด
• พื้นที่เขต สปก. 156 จุด
• พื้นที่เกษตร 153 จุด
• พื้นที่ชุมชนและพื้นที่อื่นๆ 58 จุด
• พื้นที่ริมทางหลวง 6 จุด

5 อันดับ จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากสุด

• กาญจนบุรี 114 จุด
• ตาก 62 จุด
• เพชรบูรณ์ 56 จุด
• อุตรดิตถ์ 49 จุด
• กาฬสินธุ์ 42 จุด

ในขณะที่จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านพบมากที่สุดที่

• พม่า 1,889 จุด
• กัมพูชา 1,807 จุด
• ลาว 325 จุด
• เวียดนาม 58 จุด
• มาเลเซีย 13 จุด

ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลปัจจุบัน ข้อมูลพื้นที่เสี่ยงไฟป่า พื้นที่เผาไหม้ซ้ำซาก รวมถึงดาวน์โหลดข้อมูลย้อนหลังเพิ่มเติมได้ที่ disaster.gistda