คาด 6-8 ก.พ.68 เผชิญฝุ่น PM 2.5 อีกระลอก ปภ.ช. สั่งคุมเข้ม ‘ห้ามเผา’ ทั่วไทย

คาด 6-8 ก.พ.68 เผชิญฝุ่น PM 2.5 อีกระลอก ปภ.ช. สั่งคุมเข้ม ‘ห้ามเผา’ ทั่วไทย

กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) คิกออฟวันแรก เคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ทั่วไทย หยุดฝุ่น PM 2.5 ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ 6-8 ก.พ.68 เผชิญฝุ่นอีกระลอก

กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) คิกออฟวันแรก เคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ทั่วไทย หยุดฝุ่น PM 2.5 ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ 6-8 ก.พ.68 เผชิญฝุ่นอีกระลอก 

คาด 6-8 ก.พ.68 เผชิญฝุ่น PM 2.5 อีกระลอก ปภ.ช. สั่งคุมเข้ม ‘ห้ามเผา’ ทั่วไทย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.)เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ติดตามผล การปฏิบัติการวันแรกของกิจกรรม Kick Off เคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” หยุดเผา หยุดฝุ่น เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อเป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันทุกพื้นที่ 

โดยใช้กลไกท้องถิ่นลงพื้นที่เคาะประตูบ้านประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชน ร่วมกันไม่เผาเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน ขณะที่ได้มีการกำชับให้ฝ่ายป้องกันและปราบปรามบังคับใช้กฎหมายดำเนินการจับกุม ผู้เผาอย่างเคร่งครัด 

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ยังพบจุดความร้อนอยู่ในบางพื้นที่ เช่น ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ พบ 698 จุด อยู่ในพื้นที่ สปก.และพื้นที่การเกษตร ในพื้นที่อำเภอวิเชียรบุรีและศรีเทพ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกอ้อย / จังหวัดนครสวรรค์ พบจุดความร้อน 28 จุด ส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่เกษตร จากการเผาวัสดุ  และเผาพื้นที่ป่าออกหาของป่า / ด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 
 

ขณะที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้มีการสั่งปิดอุทยานแห่งชาติในช่วงประกาศห้ามเผาเด็ดขาด เพื่อสกัดกั้นการเข้าไปเก็บหาของป่า รวมทั้งการลักลอบล่าสัตว์และเผาป่าซึ่งมักจะกลายเป็นไฟป่าที่ลุกลามเป็นวงกว้างและก่อให้เกิดจุดความร้อนและฝุ่นควันฟุ้งกระจายเป็นวงกว้าง

โดยเบื้องต้นมีอุทยานฯที่ประกาศปิดป่า ดังนี้ 

 1. อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ.เชียงใหม่ (ตั้งแต่ 1 ก.พ.-30 เม.ย.68)

 2. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี (ตั้งแต่ 1 ก.พ.-30 พ.ค.68)

 3. อุทยานแห่งชาติภูผายล อุทยานแห่งชาติภูพาน อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กและวนอุทยานภูผาแด่น จ.สกลนคร (ตั้งแต่20 ม.ค.–30 พ.ค. 2568)

ปภ.ช.ยังเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาด กรณีฝ่าฝืนเข้าไปในเขตอุทยานฯที่ประกาศปิด มีโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และหากพบว่าเข้าไปมีส่วนกับการลักลอบเผาป่าต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 4 ปี ถึง 20 ปี หรือปรับ ตั้งแต่ 400,000 บาท ถึง 2,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากเป็นการเผาในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 และชั้น 2 จะมีโทษที่รุนแรงมากขึ้น
 

ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศโดยรวมบริเวณประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สภาพอากาศค่อนข้างแห้ง ซึ่งจะต้องระวังในเรื่องของการเกิดอัคคีภัย และเกิดลมแรงในช่วงวันที่ 4 - 5 กุมภาพันธ์นี้ 

ส่วนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ลมมีกำลังอ่อนแรง ในวันที่ 6 - 8 กุมภาพันธ์ อาจจะมีปริมาณฝุ่นที่เพิ่มมากขึ้นแต่ยังไม่ถึงระดับสูงสุด โดยสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป