อัปเดต ค่าฝุ่น PM2.5 บ่ายนี้ ค่าฝุ่นกรุงเทพ อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง หนองแขมสูงสุด

ค่าฝุ่น PM2.5 วันนี้ อัปเดต ค่าฝุ่นกรุงเทพ ค่าฝุ่นล่าสุดบ่ายนี้ ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงาน สถานการณ์ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ประจำวันที่ 29 มกราคม 2568 เวลา 15.00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 32.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง (ระดับสีเหลือง)

 

12 อันดับ ค่าฝุ่น PM2.5 เขตที่มีค่าฝุ่นสูงสุดในกรุงเทพมหานคร ได้แก่

• เขตหนองแขม 43 มคก./ลบ.ม.
• เขตพระโขนง 41.0 มคก./ลบ.ม.
• เขตภาษีเจริญ 39.1 มคก./ลบ.ม.
• เขตคลองสามวา 39.1 มคก./ลบ.ม.
• เขตธนบุรี 38.5 มคก./ลบ.ม.
• เขตทวีวัฒนา 38.3 มคก./ลบ.ม.
• เขตสวนหลวง 37.4 มคก./ลบ.ม.
• เขตบางขุนเทียน 36.9 มคก./ลบ.ม.
• เขตบางรัก 36.9 มคก./ลบ.ม.
• เขตบางกอกน้อย 36.4 มคก./ลบ.ม.
• เขตหลักสี่ 36.3 มคก./ลบ.ม.
• เขตสายไหม 35.8 มคก./ลบ.ม.

กรุงเทพเหนือ

28.2 - 36.3 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

กรุงเทพตะวันออก

28.2 - 39.1 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

กรุงเทพกลาง

27.5 - 35.3 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

กรุงเทพใต้

27 - 40.6 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

กรุงธนเหนือ

28.6 - 38.5 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

กรุงธนใต้

28.9 - 43 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

ฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง โดยภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง (ระดับสีเหลือง)

ข้อแนะนำสุขภาพ คุณภาพอากาศระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ข้อแนะนำสุขภาพ ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา

ข้อแนะนำสุขภาพ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์

 

เผย จุดความร้อนไทยวานนี้ 776 จุด พบมากสุดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 201 จุด

กระทรวง อว. โดย GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ระบบ VIIRS และจากข้อมูลดาวเทียมดวงอื่นๆ ของเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 พบว่า ประเทศไทยมี จุดความร้อน รวม 776 จุด ทั้งนี้ ข้อมูลจากดาวเทียมระบุว่า

จุดความร้อนในประเทศไทยเกิดขึ้นใน

• พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 201 จุด
• พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 164 จุด
• พื้นที่เกษตร 164 จุด
• พื้นที่เขต สปก. 144 จุด
• พื้นที่ชุมชนและพื้นที่อื่นๆ 94 จุด
• พื้นที่ริมทางหลวง 9 จุด

จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านพบมากที่สุดที่

• กัมพูชา 1,971 จุด
• ลาว 285 จุด
• พม่า 274 จุด
• เวียดนาม 88 จุด

ทั้งนี้สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลปัจจุบัน ข้อมูลพื้นที่เสี่ยงไฟป่า พื้นที่เผาไหม้ซ้ำซาก รวมถึงดาวน์โหลดข้อมูลย้อนหลังเพิ่มเติมได้ที่ disaster.gistda