บุกชลบุรีค้น 5 จุด ลุย 40 บริษัทนอมินี ฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซื้ออสังหาฯ

บุกชลบุรีค้น 5 จุด ลุย 40 บริษัทนอมินี ฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซื้ออสังหาฯ

ตำรวจสอบสวนกลาง บุกชลบุรีตรวจค้น 5 จุด ลุยจีนเทา ปมจดทะเบียนตั้งนิติบุคคล 40 บริษัทนอมินี ฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซื้ออสังหาฯ

กรณีตำรวจสอบสวนกลาง บุกชลบุรีตรวจค้น 5 จุด ลุยจีนเทา ปมจดทะเบียนตั้งนิติบุคคล คาด 40 บริษัทนอมินี ฟอกเงิน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซื้ออสังหาฯ

เปิดปฏิบัติการ ทลายมังกรเทาชลบุรี Operation Dragon Slayer ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เปิดปฏิบัติการ "ทลายมังกรเทาชลบุรี Operation Dragon Slayer" ร่วมกันตรวจค้น 5 จุด ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี

สืบเนื่องจาก ตามนโยบายของกระทรวงการคลังที่สนับสนุนให้ประเทศไทยใช้บริการคริปโทเคอร์เรนซีในการทำธุรกรรมซื้อขายสินค้าหรือบริการผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

โดยมีเป้าหมายที่จะเริ่มทดลองใช้ในปี 2568 บก.ปอศ. ได้ตระหนักถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการลักลอบทำธุรกิจนอกระบบ จึงได้มีการสืบสวนและตรวจสอบผู้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว เพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดที่เกี่ยวข้อง

บุกชลบุรีค้น 5 จุด ลุย 40 บริษัทนอมินี ฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซื้ออสังหาฯ

40 บริษัทนอมินีจีนเทา ฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซื้ออสังหาฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กก.3 บก.ปอศ. ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลชาวจีนที่มีการแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซี จาก แก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มจีนเทา เพื่อนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบบริษัท

โดยมีการถือครองทรัพย์สินในนามนิติบุคคล ซึ่งนิติบุคคลเหล่านี้ให้บริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและจัดแพ็กเกจ โดยหลังจากการจดทะเบียนเรียบร้อยแล้วจะมีการปล่อยเช่าให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาพักอาศัยในประเทศไทย

โดยรับชำระค่าบริการผ่านหลายรูปแบบ เช่น สินทรัพย์ดิจิทัล (USDT), สกุลเงินต่างประเทศ หรือเงินสด

ในการดำเนินการภายใต้ปฏิบัติการ "ทลายมังกรเทาชลบุรี Operation Dragon Slayer"

พบว่ามีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนพักอาศัยอยู่ในอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกตรวจสอบ และยังพบบ้านพลูวิลล่าที่กลุ่มชาวจีนซื้อมาเพื่อปรับปรุงเป็นธุรกิจเช่าท่องเที่ยว มูลค่าบริษัทรวมอยู่ที่กว่า 20 ล้านบาท

จากการตรวจสอบบริษัทที่จดทะเบียนนิติบุคคลให้กับกลุ่มชาวจีน พบว่าเบื้องต้นมีการจดทะเบียนนิติบุคคลในลักษณะดังกล่าวทั้งหมดกว่า 40 แห่งในจังหวัดชลบุรี

จึงได้มีการตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและเตรียมขยายผลในการดำเนินคดีกับเครือข่ายผู้กระทำผิด

การปฏิบัติภายใต้อำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รอง ผบก.ปอศ.รรท.ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ.

สั่งการให้ พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล, พ.ต.ท.ประภาส วังงาม, พ.ต.ต.รัฐชิน เจริญรัมย์ สว. กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ดำเนินการ

อ้างอิง - กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง CIB