อากาศแย่ ค่าฝุ่นบ่ายนี้ ค่าฝุ่น PM2.5 กทม. เกินค่ามาตรฐาน 50 เขต 4 เขตพุ่งสีแดง

อากาศแย่ อัปเดต ค่าฝุ่นบ่ายนี้ ค่าฝุ่น PM2.5 กรุงเทพจมฝุ่นพิษ เกินค่ามาตรฐานทั้ง 50 เขต เตือนเป็นอันตราย ขณะที่ 4 เขตค่าฝุ่นพุ่งสูงระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ ต้องระวัง ล่าสุด กทม. ขยายเวลา WFH ถึง 24 ม.ค. 68
อัปเดต "ค่าฝุ่น PM2.5" อากาศแย่ ค่าฝุ่นบ่ายนี้ ค่าฝุ่นกรุงเทพ ล่าสุด ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงาน สถานการณ์ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 21 มกราคม 2568 เวลา 15.00 น. โดย ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 65.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร เตือน ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เป็นอันตราย 4 เขตพุ่งสูง ค่าฝุ่นอยู่ระดับสีแดง อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ
สำหรับ 12 อันดับ เขตที่มี ค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
- เขตหนองแขม 93.1 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางขุนเทียน 81.6 มคก./ลบ.ม.
- เขตสายไหม 79.5 มคก./ลบ.ม.
- เขตภาษีเจริญ 78.9 มคก./ลบ.ม.
- เขตทวีวัฒนา 75 มคก./ลบ.ม.
- เขตตลิ่งชัน 74.7 มคก./ลบ.ม.
- เขตธนบุรี 74.4 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางบอน 74.2 มคก./ลบ.ม.
- เขตมีนบุรี 73.8 มคก./ลบ.ม.
- เขตหลักสี่ 73.3 มคก./ลบ.ม.
- เขตบางกอกใหญ่ 71.4 มคก./ลบ.ม.
- เขตพระโขนง 71.3 มคก./ลบ.ม.
กรุงเทพเหนือ
59.7 - 79.5 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงเทพตะวันออก
62.4 - 73.8 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงเทพกลาง
53.3 - 69.9 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงเทพใต้
55.6 - 71.3 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงธนเหนือ
59.6 - 75 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงธนใต้
61.6 - 93.1 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ข้อแนะนำสุขภาพ คุณภาพอากาศระดับสีแดง - คุณภาพอากาศระดับสีส้ม
คุณภาพอากาศระดับสีแดง : มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ประชาชนทุกคน
- งดกิจกรรมกลางแจ้ง
- หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5
- หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
คุณภาพอากาศระดับสีส้ม : เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
กทม. ขยายเวลา WFH ถึง 24 ม.ค. 68 หลัง ค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานทั้ง 50 เขต และมีแนวโน้มสูงทั้งสัปดาห์
วันนี้ (21 ม.ค. 68) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม. ประกาศขยายระยะเวลา WFH เพิ่มเติม ในวันที่ 22-24 ม.ค. 68 เพื่อลดการเดินทาง ลดปริมาณรถยนต์ในภาคการจราจรซึ่งเป็นต้นตอหนี่งของฝุ่นในกรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากการที่ กทม. ได้มีการประกาศขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รวมถึงประชาชนที่สะดวกทำงานที่บ้าน ร่วม WORK FROM HOME (WFH) ในวันจันทร์และอังคารที่ 20-21 ม.ค. 68 และจะมีการประกาศขยายระยะเวลา WFH เพิ่มเติมต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 24 ม.ค. 68 หากสถานการณ์ฝุ่นยังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องนั้น
กทม. ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยวานนี้ (20 ม.ค. 68) ณ เวลา 07.00 น. ภาพรวมปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 พบเกินค่ามาตรฐานทั้ง 50 เขต ดัชนีคุณภาพอากาศระดับสีส้ม 50 เขต ส่วนในวันนี้ ณ เวลา 07.00 น. ภาพรวมปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 พบเกินค่ามาตรฐานทั้ง 50 เขตเช่นกัน โดยดัชนีคุณภาพอากาศระดับสีแดง 2 เขต ส้ม 48 เขต และจากการพยากรณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 22 - 24 ม.ค. 68 พบว่า
1. มีเขตที่ค่าฝุ่นเข้าเกณฑ์สีส้ม 35 เขตขึ้นไป
2. อัตราการระบายอากาศไม่ดี คือ อยู่ระหว่าง 875 - 2,250 ตารางเมตรต่อวินาที (m2/s) โดยวันที่ 22 ม.ค. คาดการณ์อัตราการระบายอากาศอยู่ที่ 1,750 m2/s วันที่ 23 ม.ค. คาดการณ์อัตราการระบายอากาศอยู่ที่ 1,125 m2/s วันที่ 24 ม.ค. คาดการณ์อัตราการระบายอากาศอยู่ที่ 2,125 m2/s
3. คาดการณ์ทิศทางลมตะวันออกเฉียงเหนือ
4. จุดเผาภาคกลาง/ตะวันออก 5 วันติดต่อกัน (11-15 ม.ค. 68) เกินวันละ 80 จุด
ทั้งนี้ เนื่องจากมวลอากาศเย็นที่ยังคงปกคลุมพื้นที่ตอนเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้อากาศนิ่งและจมตัว และเกิดสภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นช่วงวันที่ 25-27 ม.ค. 68 เนื่องจากมีอัตราการระบายที่เพิ่มขึ้น
สำหรับท่านที่ไม่สามารถ WFH ได้ หรือมีความจำเป็นต้องออกจากบ้านอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ขอให้ระมัดระวังและดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก หญิงตั้งครรภ์ คนชรา ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคปอด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไตเรื้อรัง ฯลฯ ควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งและตลอดเวลาที่ออกนอกอาคาร รวมถึงจำกัดระยะเวลาในการอยู่นอกอาคาร อย่างไรก็ตาม ควรงดทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมากหรือเป็นเวลานาน และต้องสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ โดยสามารถเข้ารับบริการที่คลินิกมลพิษทางอากาศที่เปิดให้บริการทั้งหมด 8 แห่ง ดังนี้
- โรงพยาบาลกลาง
- โรงพยาบาลตากสิน
- โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ
- โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
- โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์
- โรงพยาบาลนคราภิบาล (โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร)
- โรงพยาบาลราชพิพัฒน์
- โรงพยาบาลสิรินธร
"ทุกคนยังสามารถมีส่วนร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมและลดมลพิษในวันที่กรุงเทพฯ มีฝุ่นสูง โดยเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ จอดรถไว้ที่บ้าน หรือทางเดียวกันไปด้วยกัน เพราะรถทุกคันมีส่วนต่อการสร้างฝุ่น การใช้ระบบขนส่งมวลชนจะสามารถช่วยลดฝุ่นจากยานพาหนะได้มาก นอกจากนี้ ขอชวนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และลดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละออง เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น 1. หมั่นทำความสะอาดบ้านด้วยวิธีเช็ดฝุ่น 2. งดเผาขยะ งดจุดธูป 3. ปลูกต้นไม้ช่วยดูดซับมลพิษดักจับฝุ่นละออง 4. เดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ และ 5. ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถ ตรวจและดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดีไม่ให้มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน" โฆษกของกรุงเทพมหานคร กล่าว
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้านเพื่อให้สามารถป้องกันและดูแลสุขภาพตนเองในเบื้องต้น โดยสามารถตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศผ่านทาง
- แอปพลิเคชัน AirBKK
- airbkk.com
- greener.bangkok.go.th
- FB: สำนักสิ่งแวดล้อม กทม
- FB: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม
- FB: กรุงเทพมหานคร
- LINE ALERT