อัปเดต ค่าฝุ่น PM 2.5 บ่ายนี้ เตือนระดับสีส้ม เริ่มกระทบสุขภาพ หนองแขมสูงสุด!

อัปเดต ค่าฝุ่น PM 2.5 บ่ายนี้ เตือนระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ เขตหนองแขม ฝุ่นสูงสุด ขณะที่ "จุดความร้อนไทย" วานนี้พุ่ง 563 จุด พบพื้นที่เกษตรมากสุด 221 จุด
ค่าฝุ่น ล่าสุด อัปเดต ค่าฝุ่น PM 2.5 บ่ายนี้ โดย ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ประจำวันที่ 18 มกราคม 2568 เวลา 15.00 น. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 45 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
5 อันดับ เขตที่มี ค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุด ใน กรุงเทพมหานคร
- เขตหนองแขม 60.6 มคก./ลบ.ม.
- เขตภาษีเจริญ 55.8 มคก./ลบ.ม.
- เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 53.2 มคก./ลบ.ม.
- เขตหนองจอก 53.2 มคก./ลบ.ม.
- เขตหลักสี่ 53.1 มคก./ลบ.ม.
กรุงเทพเหนือ
40.5 - 53.1 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงเทพตะวันออก
38.8 - 53.15 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงเทพกลาง
38.3 - 53.2 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงเทพใต้
36.2 - 49.6 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงธนเหนือ
42.4 - 52 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
กรุงธนใต้
43.8 - 60.6 มคก./ลบ.ม.
ภาพรวม : อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ข้อแนะนำสุขภาพ "คุณภาพอากาศระดับสีส้ม" เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
GISTDA รายงาน จุดความร้อน ด้วยข้อมูลจากดาวเทียม วานนี้ (17 ม.ค. 68) ไทยพบจุดความร้อน 563 จุด
ขณะที่ "จุดความร้อนไทย" กระทรวง อว. โดย GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เผยข้อมูลจาก ดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ระบบ VIIRS และจากข้อมูลดาวเทียมดวงอื่นๆ ของเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 พบว่า ประเทศไทยมี "จุดความร้อน" รวม 563 จุด
ทั้งนี้ ข้อมูลจากดาวเทียมระบุว่า จุดความร้อนในประเทศไทยเกิดขึ้นในพื้นที่เกษตร 221 จุด ป่าสงวนแห่งชาติ 99 จุด พื้นที่ชุมชนและพื้นที่อื่นๆ 84 จุด พื้นที่เขต สปก. 83 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 66 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 10 จุด
5 อันดับ จังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุด ได้แก่
- ชัยภูมิ 53 จุด
- ชลบุรี 43 จุด
- กาฬสินธุ์ 41 จุด
- เพชรบูรณ์ 29 จุด
- นครสวรรค์ 27 จุด
ขณะที่จุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้านพบมากที่สุดที่
- กัมพูชา 1,413 จุด
- เวียดนาม 306 จุด
- พม่า 246 จุด
- ลาว 178 จุด
- มาเลเซีย 3 จุด
ทั้งนี้สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลปัจจุบัน ข้อมูลพื้นที่เสี่ยงไฟป่า พื้นที่เผาไหม้ซ้ำซาก รวมถึงดาวน์โหลดข้อมูลย้อนหลังเพิ่มเติมได้ที่ disaster.gistda.or.th/fire