รพ.สมิติเวช อัปเดตล่าสุด! อาการผู้โดยสาร สิงคโปร์แอร์ไลน์ ยังรักษาตัว 40 ราย

รพ.สมิติเวช อัปเดตล่าสุด! อาการผู้โดยสาร สิงคโปร์แอร์ไลน์ ยังรักษาตัว 40 ราย

รพ.สมิติเวช อัปเดตอาการผู้โดยสารของสายการบิน 'สิงคโปร์แอร์ไลน์' ตกหลุมอากาศ ยังรักษาตัวอยู่ 40 ราย พบมีทั้งบาดเจ็บกระดูกสันหลัง-กะโหลกศีรษะ และผลฉีกขาด

วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 นายอดินันท์ กิตติรัตนไพบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เปิดเผยความคืบหน้าการรักษาผู้บาดเจ็บจากเหตุ เที่ยวบิน SQ321 ของ สิงคโปร์แอร์ไลน์ เส้นทางลอนดอน-สิงคโปร์ ตกหลุมอากาศ จนมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก และเสียชีวิต 1 ราย จนต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินสุวรรณภูมิ และมีการส่งผู้บาดเจ็บมาทำการรักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวช นั้น

 

 

ผอ.โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ เผยว่า ปัจจจุบันมีผู้บาดเจ็บที่อยู่ในความดูแลรักษาของโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ จํานวนทั้งสิ้น 41 คน ประกอบด้วย ชาวอังกฤษ 10 คน ออสเตรเลีย 9 คน มาเลเซีย 7 คน ฟิลิปปินส์ 4 คน อเมริกัน 2 คน นิวซีแลนด์ 2 คน และ เมียนมา ไอริช ไอซ์แลนด์ อิสราเอล เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และสเปน ประเทศละ 1 คน

โดย 41 คนนี้มีอาการบาดเจ็บ แบ่งเป็น อาการบาดเจ็บของกระดูกสันหลังและไขสันหลัง 22 คน อาการบาดเจ็บกระโหลกศีรษะและสมอง 6 คน และอาการบาดเจ็บของกระดูก กล้ามเนื้อและอื่นๆ 13 คน โดยประเมินจากอาการหนักสุดของผู้บาดเจ็บ ซึ่งมี 1 คน อาการทุเลาลงและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้

ทําให้ล่าสุดตอนนี้ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ มีผู้ป่วยอยู่ในความดูแลทั้งสิ้น 40 คน ได้รับการผ่าตัดแล้ว 17 คน เป็นการผ่าตัดกระดูกสันหลังช่วงคอ 5 คน ผ่าตัดกระดูกสันหลังช่วงอก 4 คน และผ่าตัดซ่อมแซมแผลฉีกขาด 8 คน

 

 

ส่วนผู้ป่วยในห้องไอซียู (ICU) ยังอยู่ที่ 20 คนเท่าเดิม โดยผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษามีอายุตั้งแต่ 2 - 83 ปี ซึ่งอาการของผู้ป่วยที่เป็นเด็กไม่น่าเป็นห่วง และยังไม่มีผู้ป่วยรายใดที่จะอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนการประเมินว่าผู้ป่วยจะพิการหรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้ เพราะจำเป็นจะต้องมีการประเมินจากทีมแพทย์และติดตามอาการรายวัน

ผอ.โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ กล่าวต่ออีกว่า ทีมแพทย์มีการประเมินอาการในทุกๆ วัน หากผู้ป่วยอาการดีขึ้นและมีความพร้อม ก็สามารถอนุญาตให้กลับบ้านได้ ซึ่งทางโรงพยาบาลมีการประสานกับสถานทูตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ตลอด และขอยืนยันว่าทางโรงพยาบาลมีบุคลากรและทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเพียงพอต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยทั้งหมด