รัฐบาล ร่วมต่อยอดอุตสาหกรรมหนังไทย ในตลาดต่างประเทศ จับคู่ธุรกิจแล้ว 317 ราย

รัฐบาล ร่วมต่อยอดอุตสาหกรรมหนังไทย ในตลาดต่างประเทศ จับคู่ธุรกิจแล้ว 317 ราย

โฆษกรัฐบาล เผย รัฐบาลร่วมต่อยอดศักยภาพอุตสาหกรรมหนังไทยให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับในตลาดต่างประเทศ จับคู่ธุรกิจแล้ว 317 ราย สร้างมูลค่า 1,350 ล้านบาท ในงาน Marché du Film, Cannes Film Festival 2024 ฝรั่งเศส

วันนี้ (20 พ.ค. 67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยการมุ่งมั่นผลักดันของรัฐบาล และนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และสนับสนุนให้ภาพยนตร์เป็น 1 ใน soft power ที่ช่วยสร้างรายได้ กระตุ้นการท่องเที่ยว และส่งเสริมเศรษฐกิจ ประกอบกับที่ ไทยมีชื่อเสียงในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว สอดแทรกวัฒนธรรม วิถีชีวิตท้องถิ่น รวมถึงมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย เป็นปัจจัยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมธุรกิจบันเทิงของไทยเป็นที่รู้จัก และได้รับการยอมรับในตลาดต่างประเทศ ดึงดูดสายตาและสร้างความสนใจให้แก่คณะถ่ายทำภาพยนตร์จากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ แอนิเมชัน ซีรีส์วาย และธุรกิจบันเทิงที่เกี่ยวข้องของไทย เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้า (Business Matching) ในงาน Marché du Film ในงาน Cannes Film Festival 2024 ที่Palais des Festivals เมืองคานส์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทย สร้างโอกาสและเม็ดเงินทางการค้าให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย โดยในช่วง 5 วันแรกของงานมีการจับคู่เจรจา 317 ราย และมีมูลค่า 1,350 ล้านบาท และคาดว่า 9 วันของการจัดงาน (วันที่ 14 - 22 พฤษภาคม 2567) จะมีมูลค่าซื้อขายกว่า 1,900 ล้านบาท ในขณะที่ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2566) ประเทศไทยเองมีกองถ่ายภาพยนตร์ต่างชาติเข้ามาถ่ายทำกว่า 442 เรื่อง สร้างรายได้เข้าประเทศประมาณ 7,400 ล้านบาท

และล่าสุด กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ยังได้เผยข้อมูลว่า ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และสร้างรายได้อย่างมาก โดยช่วงเดือนมกราคม-เมษายน 2567 มีธุรกิจผลิตภาพยนตร์ที่จดทะเบียนนิติบุคคลเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 หรือจำนวน 56 ราย จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 และทุนจดทะเบียน 195.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 146.44 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 โดยซีรีส์วายสามารถสร้างมูลค่าในธุรกิจผลิตภาพยนตร์ให้กลับมา สร้างกำไร และยังส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ด้วย หนุนให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยพร้อมเป็น Soft Power เผยแพร่อัตลักษณ์ ความเป็นไทย สินค้าไทย สถานที่ท่องเที่ยวไทย 

“อุตสาหกรรมภาพยนตร์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมศักยภาพของไทย ที่จะใช้เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีโลก ทั้งยังเป็นอีกแรงผลักดัน กระตุ้นสำคัญ ให้อุตสาหกกรรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ Soft power อาหาร สินค้า OTOP และการท่องเที่ยว ต่อยอดสนับสนุนการเติบโตให้ธุรกิจขนาดใหญ่ และ SMEs กลาง และ เล็ก ที่ถือเป็นกุญแจสำคัญผลักดันเศรษฐกิจไทย” นายชัย กล่าว