อัปเดต จับ 'น้องนุ่น' Onlyfans คาคอนโดหรูย่านลาดพร้าว ชวนเล่นเว็บพนันออนไลน์
นครบาลอัปเดต บุกจับ 'น้องนุ่น' Onlyfans คาคอนโดหรูย่านลาดพร้าว ชวนเล่นเว็บพนันออนไลน์ โพสต์ภาพลงในบัญชีเฟซบุ๊คส่วนตัว มักจะใส่แท็กไอดีไลน์เว็บไซด์การพนัน
กรณีบุกจับ 'น้องนุ่น' Onlyfans คาคอนโดหรูย่านลาดพร้าว ชวนเล่นเว็บพนันออนไลน์ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ กก.สส.1 สืบนครบาล ได้จับกุมตัวน.ส.ลลดา หรือ นุ่น อายุ 23 ซึ่งกระทำความผิดฐาน
- ผู้ใดจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
จับกุมภายในห้องพักคอนโด แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
สาว Onlyfans ชวนเล่นเว็บพนันออนไลน์
ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวน หาข่าว จนทราบว่าผู้ถูกจับมีพฤติการณ์ประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน
- โพสต์ภาพลงในบัญชีเฟซบุ๊คส่วนตัว
- มักจะใส่แท็กไอดีไลน์เว็บไซด์การพนันไว้ใต้คอมเม้นของภาพที่โพสต์
- เชิญชวนให้สมัครเว็บไชต์คาสิโนออนไลน์
- ลิงก์สมัครของเว็บพนันที่มีชื่อว่า omega9
และสืบทราบว่าว่า ผู้ถูกจับพักอาศัยอยู่ภายในห้องคอนโดแห่งหนึ่ง ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจขุดจับกุม
จึงได้จัดทำรายงานการสืบสวนเพื่อขออนุมัติขอออกหมายค้นต่อศาลอาญา เพื่อทำการตรวจค้น พบ และยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือได้ใช้ หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำความผิด เพื่อยึดไว้เป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวนเพื่อดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมา วันนี้ (15 พ.ค.67) เวลา 10.00 น. ศาลได้อนุมัติหมายค้นศาลอาญาที่ 220/2567 ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นห้องดังกล่าว
เมื่อเดินทางไปถึงปรากฏว่า พบผู้พักอาศัยทราบชื่อภายหลังว่านางสาวลลดา หรือนุ่น รับว่าเป็นผู้พักอาศัยอยู่ภายในห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้งได้แสดงหมายค้นศาลอาญาที่ 220/2567 ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ดังกล่าว พร้อมทั้งอ่านหมายค้นให้ฟังและให้อ่านเองแล้วทราบและเข้าใจดีแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการตรวจค้นโดยยินยอมเป็นผู้นำตรวจค้นห้องดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจค้นพบ โทรศัพท์ I phone 15 pro max ซึ่งเป็นโทรศัพท์ของนางสาวลลดา ฯ อยู่ที่ตัวของนางสาว ลลดาฯ จึงได้ทำการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ดังกล่าว พบแอปพลิเคชั่น เฟซบุ๊คพบว่า บัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊คดังกล่าวคือนางสาวลลดาฯ ได้มีโพสต์โฆษณาชักชวนเล่นการพนันออนไลน์บนแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊คหลายครั้ง
และตรวจค้นแอปพลิเคชั่น อินตราแกรมพบว่า บัญชีผู้ใช้อินตราแกรม ซึ่งผู้ใช้บัญชีดังกล่าวคือนางสาวลลดา ฯ ได้มีการโพสต์โฆษณาชักชวนเล่นการพนันนออนไลน์ บนแอปพลิเคชั่นอินตราแกรม ด้วยเช่นกัน
จากการสอบถามนางสาวลลดาฯให้การรับว่าตนเป็นเจ้าของและผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊คและบัญชีอินสตราแกรมดังกล่าวและตนได้เริ่มชักชวนและโฆษณาให้บุคคลภายนอกและประชาชนทั่วไปที่เข้าถึงเล่นการพนันออนไลน์ดังกล่าว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 เป็นต้นมา
ซึ่งปัจจุบันได้มีเว็บการพนันออนไลน์จำนวน 2 เว็ปไซต์ เป็นผู้ว่าจ้างให้ข้าฯโฆษณาและชักชวน โดยได้รับค่าตอบแทนในการชักชวนเป็นเงินจำนวน 20,000 บาทต่อการโพสต์ภาพครบ 30 ครั้ง/ 1 เว็บไชต์ จริง
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้แก่ นางสาวลลดา ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “ผู้ใดจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน”
แจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ถูกจับทราบ โดยเมื่อผู้ถูกจับรับทราบข้อกล่าวหาผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และ สิทธิของผู้ถูกจับดังกล่าวข้างต้นโดยตลอดแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้จัดทำบันทึกการจับกุม และ นำตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ดำเนินการตามกฎหมาย
.
พล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า จากนโยบาย การปราบปรามการพนันออนไลน์ทุกรูปแบบ ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. , ซึ่งในสื่อสังออนไลน์ปรากฏว่ามีการโฆษณาชักชวนเล่นการพนันผ่าน “เน็ตไอดอล” หรือ บุคคลที่มีชื่อเสียง หรือมีอิทธิพลตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ประกาศโฆษณาชักชวนประชาชนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น
- Line,
- Facebook,
- Instagram,
- TikTok
มีการโฆษณามีโปรโมชันเล่นเสียคืนเงิน หรือให้เครดิตจูงใจเพื่อให้มีคนเข้าไปเล่นการพนัน ฝากไปยังบุคคลที่มีชื่อเสียงในสื่อสังคมออนไลน์ที่ยังมีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวอยู่ ให้หยุดการกระทำนั้นเสีย จะอ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นความผิดไม่ได้ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ไม่มีละเว้นอย่างเด็ดขาด
และผู้นั้นอาจจะถูกยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อีกด้วย นอกจากนี้แล้วการโฆษณาต่างๆ ยังทำให้ผู้ที่หลงเชื่อเข้าเล่นการพนันอาจจะถูกกลโกงของมิจฉาชีพหลอกลวงเอาทรัพย์สิน หรือเสี่ยงถูกนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ในทางทุจริต