รัฐบาล หนุนส่งออกทุเรียนไทยไปจีน ผลักดันขนส่งผลไม้ทางบก 16 ด่าน รับฤดูผลไม้

รัฐบาล หนุนส่งออกทุเรียนไทยไปจีน ผลักดันขนส่งผลไม้ทางบก 16 ด่าน รับฤดูผลไม้

โฆษกรัฐบาล เผย รัฐบาลพร้อมส่งเสริมการส่งออกทุเรียนไทยไปจีนต่อเนื่อง หลังราคาทุเรียนเกรดส่งออกสูงถึง 160 บาท/กิโลกรัม ผลักดันการขนส่งผลไม้ทางบก 16 ด่าน รองรับฤดูผลไม้

วันนี้ (8 พ.ค. 67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่ส่งเสริมการทำงานให้รัฐบาลสนับสนุนการส่งออกทุเรียน ทำให้ยอดการส่งออกทุเรียนไทยขยายตัวต่อเนื่อง จนปัจจุบันทุเรียนเกรดส่งออก ราคาเฉลี่ยกิโลละ 160 บาท พร้อมเดินหน้าสู่เป้าในการส่งออกให้ได้ 130,000 ล้านบาท โดยเป็นผลผลิตจากภาคตะวันออกของไทยที่ออกสู่ตลาดแล้วกว่า 50% โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์ชะนี และพันธุ์ก้านยาว ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมใช้มาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2567 ควบคู่การผลักดันการส่งออกสินค้าทางบก เพื่อกระจายผลผลิตออกสู่ตลาด เพิ่มโอกาสและรายได้ให้เกษตรกร 
 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อมูลจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ระบุถึงสถานการณ์ผลผลิตทุเรียนไทยในภาคตะวันออกที่เติบโตต่อเนื่อง โดยราคาทุเรียนเกรดส่งออก ราคาเฉลี่ย 160 บาทต่อกิโลกรัม ทุเรียนเกรดตกไซส์ส่งออก ราคาเฉลี่ย 120 บาทต่อกิโลกรัม และทุเรียนตกไซส์ ราคาเฉลี่ย 100 - 110 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ที่ถือเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ล่าสุดพบว่า ราคาเฉลี่ยของทุเรียนไทยในตลาดค้าส่งผักและผลไม้เจียงหนาน นครกว่างโจว ในช่วงวันที่ 1 - 30 เมษายน 2567 (ข้อมูลจากฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว) มีราคาเฉลี่ยที่ 52.83 หยวนต่อกิโลกรัม ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 9.33% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 ซึ่งเดิมมีราคาเฉลี่ยที่ 48.32 หยวนต่อกิโลกรัม 

ข้อมูลดังกล่าวสอดรับกับแนวทาง และมาตรการของรัฐบาลที่สนับสนุนชาวสวนทุเรียน ตั้งแต่ต้นทางการรองรับผลผลิต ผ่านมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2567 ทั้ง 6 มาตรการของกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่

  1. ส่งเสริมการผลิตและการแปรรูป
  2. ส่งเสริมตลาดภายในประเทศ
  3. ส่งเสริมตลาดต่างประเทศ
  4. เพิ่มประสิทธิภาพทางการค้า
  5. อำนวยความสะดวกทางการค้า
  6. กำหนดมาตรการทางกฎหมาย 

ขณะที่ปลายทางด้านการส่งออก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือและเจรจากับทางจีนอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งผลไม้จากไทยโดยตรงไปยังแต่ละมณฑลของจีน ผ่านเส้นทางส่งออกสินค้าทางบก เช่น การขยายเวลาทำการของด่าน การเพิ่มช่องทางเข้า – ออกของรถบรรทุก การเพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ให้เพียงพอต่อความต้องการในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 นี้ ซึ่งเป็นฤดูผลไม้ของไทย โดยปัจจุบันมีด่านทางบกที่กำหนดให้เป็นจุดนำเข้า - ส่งออกผลไม้ระหว่างไทยและจีน จำนวนทั้งสิ้น 16 ด่าน ได้แก่

ด่านฝั่งไทย จำนวน 6 ด่าน ได้แก่

  1. ด่านเชียงของ
  2. ด่านบึงกาฬ
  3. ด่านนครพนม
  4. ด่านมุกดาหาร
  5. ด่านจันทบุรี
  6. ด่านหนองคาย

ด่านฝั่งจีน จำนวน 10 ด่าน ประกอบด้วย

  • ด่านในมณฑลยูนนาน 5 ด่าน ได้แก่
  1. ด่านโม่ฮาน
  2. ด่านรถไฟโม่ฮาน
  3. ด่านรถไฟเหอโขว่
  4. ด่านเหอโข่ว
  5. ด่านเทียนเป่า
  • ด่านในเขตกว่างซีจ้วง จำนวน 5 ด่าน ได้แก่
  1. ด่านโหย่วอี้กวน
  2. ด่านตงซิง
  3. ด่านรถไฟผิงเสียง
  4. ด่านหลงปัง
  5. ด่านสุ่ยโข่ว

“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการส่งออกผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียนที่ถือเป็น King of fruits ของไทย ซึ่งเชื่อมั่นว่าทุเรียนจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการผลักดันผลไม้ไทยชนิดอื่น ๆ ซึ่งมีเอกลักษณ์ มีรสที่ต่างชาตินิยมเช่นกัน ให้ได้รับความนิยมในตลาดโลกด้วย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และเพิ่มความหลากหลายให้กับอุตสาหกรรมผลไม้ของไทย เพื่อในที่สุดจะเพิ่มโอกาส ช่องทาง และรายได้ให้กับเกษตรกร และผู้ประกอบการในระยะยาว” นายชัย กล่าว