'อาจารย์' มหาวิทยาลัยดัง โดนหลอกสูญ 3 ล้าน หลงรักแพทย์ปลอมในเฟซบุ๊ก

'อาจารย์' มหาวิทยาลัยดัง โดนหลอกสูญ 3 ล้าน หลงรักแพทย์ปลอมในเฟซบุ๊ก

อุทาหรณ์ 'อาจารย์' มหาวิทยาลัยดัง โดนหลอกเสียค่าโง่ 3 ล้าน หลงรักแพทย์ปลอมในเฟซบุ๊ก ที่แท้เป็นแก๊งมิจฉาชีพ ตำรวจลุยจับทั้งขบวนการ

ภัยออนไลน์ อุทาหรณ์ 'อาจารย์' มหาวิทยาลัยดัง โดนหลอกสูญ 3 ล้าน หลงรักแพทย์ปลอมในเฟซบุ๊ก ที่แท้เป็นแก๊งมิจฉาชีพ

อาจารย์เสียค่าโง่ 3 ล้าน

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์ว่าตนเองมีอาชีพเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

  • ไม่มีครอบครัว
  • ได้รู้จักกับเพื่อนในเฟซบุ๊กได้พูดคุยกันจนสนิทสนม 

ฝ่ายเพื่อนชายดังกล่าวที่ตนเองได้พูดคุยด้วยแจ้งว่าเป็นทหารหมอหนุ่มของสหรัฐอเมริกา ตอนนี้ได้ทำงานอยู่ในอัฟกานิสถาน และรูปโปรไฟล์นายทหารหนุ่มคนดังกล่าวเป็นรูปชายสวมเครื่องแบบทหารของอเมริกาและมีรูปร่างหน้าตาดี ตนเองจึงหลงเชื่อบุคคลดังกล่าวเป็นทหารจริง

กลโกงหลอกให้รักหลอกเอาเงิน

หลังจากนั้นนายทหารหนุ่มดังกล่าวได้ออกอุบายว่า จะส่งของมีค่ามาให้ เพื่อสร้างครอบครัวด้วยกัน ตนเองหลงเชื่อจึงได้ตอบตกลง

หลังจากนั้นได้มีโทรศัพท์แจ้งว่ามาจากศุลกากรสนามบินได้โทรมาแจ้งกับตนว่าได้มีพัสดุตกค้าง ไม่สามารถนำออกมาได้เพราะของที่ส่งมาเป็นเงินและทองจำนวนมากจึงต้องมีการค่าภาษีก่อน

ตนเองหลงเชื่อจึงได้โอนเงินค่าภาษีทั้งหมดไปให้แก่บุคคลที่อ้างเป็นศุลกากรเป็นจำนวนเงิน สามล้านสี่แสนบาท

หลังจากนั้นตนเองก็ไม่สามารถติดต่อกับชายที่อ้างตัวเป็นทหารหนุ่มได้ตนเองรู้สึกว่าตนเองน่าจะถูกหลอก จึงได้โทรไปสอบถามศุลกากร (ที่แท้จริง) ได้คำตอบว่าทางศุลกากรไม่ได้ให้บุคคลคนใดโทรไปแจ้งกับผู้เสียหาย และผู้เสียเองก็ไม่ได้มีพัสดุตกค้างอยู่เลย ตนเองรู้ว่าถูกหลอกจึงได้มาแจ้งให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสืบสวน เพื่อดำเนินคดีกับขบวนการดังกล่าว

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.4 ได้สืบสวนว่าเจ้าของบัญชีคือ

น.ส.อรนิภา อายุ 19 ปี ชาวจังหวัดอุทัยธานี

พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ราชัญ ลำใย รอง ผกก.2 บก.สอท.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุม น.ส.อรนิภา

ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด”

โดยจับกุมได้ที่ บริเวณหน้าห้องน้ำวัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท

สอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การว่า ตนเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับนี้จริง เมื่อประมาณปี 65 ได้มีเพื่อนของตนเองได้มาอ้อนวอนขอให้เปิดบัญชีธนาคารให้ แจ้งว่าจะนำบัญชีนี้ไปให้บุคคลที่ตนเองทำธุรกิจด้วย เพราะเพื่อนแจ้งว่าตนเองไม่สามารถเปิดบัญชีได้

ตนเองหลงเชื่อจึงได้ไปเปิดบัญชีให้ จนมาทราบตอนที่ถูกจับกุมว่าบัญชีที่ตนเปิดให้เพื่อนของตนเองดังกล่าว ได้ถูกมิจฉาชีพนำไปใช้หลอกประชาชนคนอื่น