จุดความร้อนไทย เดือดพุ่ง 3,350 จุด เชียงใหม่แชมป์จังหวัดที่พบมากสุด 561 จุด

จุดความร้อนไทย เดือดพุ่ง 3,350 จุด เชียงใหม่แชมป์จังหวัดที่พบมากสุด 561 จุด

ทำนิวไฮ! GISTDA เผย จุดความร้อนไทย เดือดพุ่ง 3,350 จุด พบมากสุดในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,778 จุด เชียงใหม่แชมป์จังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนมากสุด

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผย ข้อมูลจากดาวเทียม ซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) และจากดาวเทียมอีกหลายดวง เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ไทยพบ จุดความร้อน ทั้งประเทศ 3,350 จุด

 

 

ข้อมูลจากดาวเทียมยังระบุอีกว่า จุดความร้อนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่พบใน พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,778 จุด ตามด้วย พื้นที่ป่าสงวน 906 จุด พื้นที่เกษตร 354 จุด แหล่งชุมชนและอื่นๆ 168 จุด พื้นที่ สปก. 129 จุด รวมถึงพื้นที่ริมทางหลวง 15 จุด

 

สำหรับ จังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนมากที่สุด คือ เชียงใหม่ 561 จุด

 

ขณะที่ ประเทศเพื่อนบ้าน พบจุดความร้อนต่อเนื่อง โดยสูงสุดวานนี้ยังคงเป็น พม่า 7,801 จุด ตามด้วย ลาว 6,602 จุด ไทย 3,350 จุด เวียดนาม 836 จุด กัมพูชา 720 จุด และมาเลเชีย 57 จุด

 

จุดความร้อนไทย เดือดพุ่ง 3,350 จุด เชียงใหม่แชมป์จังหวัดที่พบมากสุด 561 จุด

 

จุดความร้อนไทย เดือดพุ่ง 3,350 จุด เชียงใหม่แชมป์จังหวัดที่พบมากสุด 561 จุด

 

จุดความร้อนไทย เดือดพุ่ง 3,350 จุด เชียงใหม่แชมป์จังหวัดที่พบมากสุด 561 จุด

 

จุดความร้อนไทย เดือดพุ่ง 3,350 จุด เชียงใหม่แชมป์จังหวัดที่พบมากสุด 561 จุด

 

 

ทั้งนี้ ระบบติดตาม PM2.5 จากเทคโนโลยีดาวเทียมและภูมิสารสนเทศ โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น เช็คฝุ่น เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (3 เม.ย.67) พบว่ามี

 

  • 18 จังหวัด มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ

 

  1. พะเยา 119.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  2. เชียงราย 109.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  3. แม่ฮ่องสอน 103.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  4. น่าน 101.0 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  5. ลำปาง 100.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  6. เชียงใหม่ 98.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  7. ลำพูน 92.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  8. เลย 83.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  9. หนองคาย 82.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  10. อุตรดิตถ์ 80.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  11. แพร่ 80.0 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  12. บึงกาฬ 78.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  13. ตาก 77.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  14. สุโขทัย 76.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  15. อุดรธานี 76.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  16. หนองบัวลำภู 75.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  17. พิษณุโลก 75.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
  18. กำแพงเพชร 75.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

 

และยังพบอีก 33 จังหวัด ที่มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

 

จุดความร้อนไทย เดือดพุ่ง 3,350 จุด เชียงใหม่แชมป์จังหวัดที่พบมากสุด 561 จุด

 

จุดความร้อนไทย เดือดพุ่ง 3,350 จุด เชียงใหม่แชมป์จังหวัดที่พบมากสุด 561 จุด

 

จุดความร้อนไทย เดือดพุ่ง 3,350 จุด เชียงใหม่แชมป์จังหวัดที่พบมากสุด 561 จุด

 

จุดความร้อนไทย เดือดพุ่ง 3,350 จุด เชียงใหม่แชมป์จังหวัดที่พบมากสุด 561 จุด

 

เช็กค่าฝุ่นรายจังหวัดล่าสุด (คลิก)