หาค่าเทอม ถูกหลอกแอบอ้างกู้เงินธนาคารดัง เสียค่าโง่ 3 แสน ลุยจับบัญชีม้า

หาค่าเทอม ถูกหลอกแอบอ้างกู้เงินธนาคารดัง เสียค่าโง่ 3 แสน ลุยจับบัญชีม้า

เตือนภัยอย่าตกเป็นเหยื่อ หาค่าเทอม ถูกหลอกแอบอ้างกู้เงินธนาคารดัง เสียค่าโง่ 3 แสน ลุยจับบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แฉกลโกงพฤติการณ์คนร้าย

กรณี หลอกให้กู้ยืมเงิน เสียค่าโง่ 3 แสน เจ้าหน้าที่สืบนครบาลจับกุมตัว นางสาวศุภิสรา อายุ 25 ปี เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 16.30 น. จับกุมตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1183/2567 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2567 สน.นางเลิ้ง 

ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

จับกุมได้ที่ บริเวณด้านหน้าบริษัท ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

กลโกงหลอกให้กู้ยืมเงินค่าเทอม

พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2567  ผู้เสียหายซึ่งสนใจกู้เงินเพื่อสำหรับนำมาใช้"ค่าเทอม"สำหรับจ่ายค่ามหาวิทยาลัยให้กับบุตร ได้เล่นเฟซบุ๊กแล้วได้เห็นโฆษณาการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยถูก  โพสต์ไว้

เมื่อกดลิงก์ไปแล้วระบบจะเชื่อมไปยังบัญชีผู้ใช้ไลน์ชื่อ 'Sam KTB 5 PLUS" ใช้รูปโปรไฟล์เป็นผู้ชายสวมใส่เสื้อยืดคอกลมสีฟ้า ผู้เสียหายจึงได้กดเพิ่มเพื่อนบัญชีผู้โช้ไลน์ดังกล่าว เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการกู้เงิน

ซึ่งทางบัญชีไลน์ดังกล่าวได้อ้างตัวเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อและบัญชีผู้ใช้ไลน์ดังกล่าวได้แจ้งอนุสัญญาวงเงินกู้มาให้ และส่งลิงก์มาให้กับผู้เสียหายเพื่อให้เข้าไปกรอกข้อมูลส่วนตัวและส่งเอกสารส่วนตัวไปให้ซึ่งเป็นลิงก์  

ผู้เสียหายได้ดำเนินการกรอกข้อมูลว่วนตัวและส่งเอกสารส่วนตัวไปในระบบ จากนั้นได้มียอดเงินที่ผู้เสียหายประสงค์จะทำการกู้เข้ามาในระบบของลิงก์ดังกล่าว จำนวน 100,000 บาท 

จากนั้นผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวได้ให้ผู้เสียหาย โอนเงินค่าดำเนินการต่างๆ ไปตามบัญชีที่ผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวส่งมาให้ โดยอ้างว่าเป็นการโอนเงินค่าดำเนินการต่าง ๆ ซึ่งยอดเงินที่โอนเข้าไปจะไปรวมอยู่ในระบบกับยอดเงินที่จะกู้

นอกจากนั้นผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวยังให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อแก้ไขระบบต่าง ๆ โดยอ้างว่าระบบล็อคไม่สามารถถอนเงินกู้ออกจากระบบได้ เนื่องจากผู้เสียหายให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง ซึ่งสุดท้ายเมื่อโอนเงินค่าดำเนินการแก้ไขระบบต่างๆไปแล้ว ก็ไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้อยู่ดี

เมื่อผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ บัญชีไลน์ดังกล่าวได้ให้ผู้เสียหาย ติดต่อไปยังผู้ใช้บัญชีไลน์อีกคนหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นหัวหน้าฝ่ายระบบเพื่อขอรับรหัส OTP เป็นผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อว่า "เจ้าหน้าที่ KTB"  รูปโปรไฟล์เป็นผู้ชายสวมใส่สูทผูกเน็คไทอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายระบบส่วนกลาง โดยผู้ใช้ไลน์ดังกล่าวได้ให้รหัส OTP มาให้

หลังจากใส่รหัสแล้วระบบก็แจ้งว่ากดรหัสผิด ซึ่งผู้ใช้ไลน์ดังกล่าวให้ดำเนินการโอนเงินเพื่อดำเนินการขอรหัสใหม่ โดยต้องโอนเงินเข้าไปในระบบอีก เพื่อดำเนินการแก้ไขระบบอีกครั้ง โดยได้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารต่าง ๆ เพื่อเป็นค่าดำเนินการแก้ไขระบบ เพื่อให้ถอนเงินออกจากระบบได้ แต่เมื่อโอนเงินไป ก็ยังไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้อยู่ดี

โดยผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย โอนเงินค่าดำเนินการไปยังบัญชีต่าง ๆ รวมทั้งของผู้ถูกจับด้วย ไปทั้งสิ้น 300,000 บาท

ซึ่งหลังจากที่โอนเงินค่าดำเนินการต่างๆไปแล้วก็ไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้จริง ซึ่งผุ้เสียหายไม่ได้รับเงินกู้มาจริงแต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนน่าจะถูกหลอกลวง เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,

พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี ,

พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.ฯ,

พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.,

พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์

พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3ฯ

พ.ต.ท.รณฤทธิ์ กิตติมาศ สว.กก.สส.3ฯ

ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ปิ่น มหถาวร รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น (ชุดปฏิบัติการที่ 3/4 ) ดำเนินการ สืบสวนติดตามคนร้ายที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผ่านการหลอกลวงทุกประเภท ขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ

และสำหรับผู้ที่ขายบัญชีธนาคารนั้น ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ระบุว่า เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ