สงกรานต์ ปี67 'คมนาคม' พร้อมรับ ปชช. เดินทาง ตั้งเป้าอุบัติเหตุเป็นศูนย์

สงกรานต์ ปี67 'คมนาคม' พร้อมรับ ปชช. เดินทาง ตั้งเป้าอุบัติเหตุเป็นศูนย์

"สุริยะ" สั่ง เตรียมความพร้อมรองรับประชาชนเดินทางช่วงสงกรานต์ 11-17 เม.ย.นี้ ตั้งเป้าอุบัติเหตุเป็นศูนย์ เตรียมเปิดวิ่งฟรีมอเตอร์เวย์ 4 เส้นทาง-ทางด่วน 5 เส้นทาง คาดปริมาณจราจรเข้า-ออกกรุงเทพฯ 4.39 ล้านคน มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 15.45 ล้านคน-เที่ยว

วันนี้ (5 มี.ค. 67) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม ได้จัดการประชุมแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ซึ่งคาดว่าในช่วงระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 รวม 7 วัน จะมีประชาชนเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลและใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ จึงได้สั่งการทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนในทุกมิติ โดยมีเป้าหมายกำหนดให้อุบัติเหตุเป็นศูนย์ พร้อมทั้งให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกันขับเคลื่อนแผนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ อาทิ กำกับดูแลการให้บริการ มาตรฐานความปลอดภัย และแจ้งข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนทราบล่วงหน้า เพื่อให้สามารถวางแผนการเดินทาง ตามนโยบาย “เดินทางทั่วไทย คมนาคม สะดวก ปลอดภัย ใส่ใจให้บริการประชาชน”

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมแผนการรองรับและอำนวยความสะดวกต่อประชาชน โดยมอบให้กรมทางหลวง (ทล.) ไปบริหารจัดการการจราจรบนถนนพระราม 2 โดยเฉพาะจุดที่เป็นคอขวด หรือจุดที่มีการจราจรติดขัดและชะลอตัว เพื่อให้การจราจรมีความคล่องตัว รวมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถบรรทุกไม่นำรถบรรทุกวิ่งในวันที่คาดว่าจะมีการเดินทางของประชาชนเป็นจำนวนมาก 

อีกทั้งมอบให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กำชับสายการบินในยการให้บริการไม่ให้มีเที่ยวบินล่าช้า รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารรับทราบสิทธิ์ของผู้โดยสารในกรณีสายการบินเลื่อนหรือยกเลิกเที่ยวบิน 3.มอบให้กรมเจ้าท่า (จท.) ตรวจสอบความปลอดภัยของท่าเรือทุกแห่ง เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน และ 4.มอบให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ประชาสัมพันธ์เส้นทางสายรอง เพื่อเป็นทางเลือกรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาล

สำหรับแผนรองรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลนั้น กรมทางหลวงจะยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) 2 เส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2567 เวลา 00.01 น. – 17 เมษายน 2567 เวลา 24.00 น. รวมระยะเวลา 7 วัน สำหรับ ได้แก่ มอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 (กรุงเทพมหานคร-พัทยา) และหมายเลข 9 (สายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ถนนกาญจนาภิเษก ตอนบางปะอิน – บางพลี และตอนพระประแดง – บางแค ช่วงพระประแดง – ต่างระดับบางขุนเทียน)

ส่วน ทล. ยังมีแผนเปิดให้ทดลองใช้มอเตอร์เวย์ หมายเลข 81 (M81) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ช่วงด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก-ด่านกาญจนบุรี ระยะทาง 50 กิโลเมตร (กม.) หลังจากเคยเปิดให้ใช้บริการแล้วเมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่ผ่านมา ส่วนมอเตอร์เวย์ หมายเลข 6 (M6) สายบางปะอิน-นครราชสีมานั้น ทล. ยังคงเปิดให้ใช้ฟรีต่อเนื่องมาตั้งแต่เทศกาลปีใหม่ 2567 ช่วงปากช่อง – เลี่ยงเมืองนครราชสีมา ระยะทาง 77.493 กม. ตามเดิม

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของปริมาณจราจรเข้า-ออกกรุงเทพมหานคร ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 รวม 7 วัน คาดการณ์ว่า จะมีปริมาณจราจรบนทางหลวงสายหลัก 5 เส้นทาง ในสายเหนือ อีสาน ตะวันออก ตะวันตก และใต้ รวม 4.39 ล้านคัน ลดลงจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 ที่มีปริมาณ 4.60 ล้านคัน
 

ขณะที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะยกเว้นเก็บค่าผ่านทางทางพิเศษ (ทางด่วน) 5 เส้นทาง ประกอบด้วย ทางพิเศษศรีรัช อุดรรัถยา และเฉลิมมหานคร รวม 3 เส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2567 เวลา 00.01 น. – 15 เมษายน 2567 เวลา 24.00 น. รวมระยะเวลา 3 วัน ซึ่งเป็นการยกเว้นจัดเก็บค่าผ่านทางตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ ส่วนอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ ทางพิเศษบูรพาวิถี และกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) นั้น กทพ. จะเสนอ ครม. พิจารณาอนุมัติเห็นชอบยกเว้นค่าผ่านทาง รวมระยะเวลา 7 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2567 เวลา 00.01 น. – 17 เมษายน 2567 เวลา 24.00 น.

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ในช่วง 7 วันของเทศกาลสงกรานต์ 2567 นั้น คาดว่า จะมีปริมาณการเดินทางของประชาชนด้วยระบบขนส่งสาธารณะรวม 15.45 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะรวม 13.53 ล้านคน-เที่ยว โดยในปี 2567 แบ่งเป็น การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ ทั้งรถเมล์ ขสมก. รถไฟฟ้า เรือ รวม 13.39 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีปริมาณอยู่ที่ 11.88 ล้านคน-เที่ยว ขณะที่การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัด ทั้วรถทัวร์ รถไฟระหว่างเมือง เครื่องบิน รวม 2.04 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีปริมาณอยู่ที่ 1.65 ล้านคน-เที่ยว โดยได้สั่งการให้จัดเตรียมระบบขนส่งสาธารณะทางบก ทางราง ทางน้ำและทางอากาศ รวมถึงการเชื่อมต่อการเดินทางที่สถานีรถโดยสาร สถานีรถไฟ ท่าเรือ และท่าอากาศยาน เพื่อให้บริการแก่ประชาชนอย่างเพียงพอ เป็นไปตามมาตรฐานสากล มีความสะดวกและปลอดภัยมากที่สุด

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ได้เตรียมมาตรการซอฟต์พาวเวอร์ด้านความปลอดภัยในการเดินทาง โดยมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดฯ ดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เรื่องความปลอดภัยในการเดินทาง และเผยแพร่ในช่องทางต่าง ๆ หรือการนำซอฟต์พาวเวอร์ที่น่าสนใจมาปรับใช้ รวมทั้งสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้และเฝ้าระวังถึงความปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะมีการรณรงค์ “ไม่ขับเร็ว – คาดเข็มขัดนิรภัย – สวมหมวกนิรภัย – ดื่มไม่ขับ – รักษาวินัยจราจร – ง่วงไม่ขับ – ไม่ขับย้อนศร” อย่างไรก็ตาม จะมีการประชุมอีกครั้งในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2567 เพื่อสรุปแผนงานทั้งหมดให้ชัดเจน นอกจากนี้ สามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางและแจ้งอุบัติเหตุได้ที่ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม สายด่วน 1356 และ Application สายด่วน และ Website ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ

ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมในครั้งนี้ ต้องการให้ทุกหน่วยงานถอดบทเรียนเดิม เพื่อนำมาใช้ให้มีประสิทธิภาพเชิงบวกสูงสุด พร้อมให้ทาง สนข.เสนอเส้นทางสายรอง เพื่อเป็นทางเลือกรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาล นอกเหนือจากการเสนอเพียงเส้นทางสายหลัก เพื่อระบายการจราจรของเส้นทางหลัก รวมถึงการตั้งด่านตรวจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในช่วงเทศกาล เนื่องจากบางจุดอาจเป็นจุดเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ขอให้พิจารณากำหนดจุดตั้งด่าน และให้กระจายบุคลากรในบริเวณที่มีความเหมาะสมและปลอดภัย