ลุย! แก๊งหลอกทำภารกิจ รีวิวสินค้า เหยื่อโอนเงินสูญ 2.9 ล้าน

ลุย! แก๊งหลอกทำภารกิจ รีวิวสินค้า เหยื่อโอนเงินสูญ 2.9 ล้าน

ตำรวจไซเบอร์ ลุย! ปราบแก๊งหลอกทำภารกิจ รีวิวสินค้า เหยื่อโอนเงินสูญ 2.9 ล้าน

กรณีแก๊งหลอกทำภารกิจ รีวิวสินค้า สืบเนื่องจากผู้เสียหายได้เข้ากลุ่มไลน์ของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งห้องดังกล่าวสร้างห้องขึ้นมาเพื่อให้สมาชิกเรียนรู้ รับข่าวสาร แลกเปลี่ยน และพบปะสื่อสารระหว่างผู้นำและสมาชิก ต่อมาวันที่ 14 ม.ค. 66 เวลา 15.08 น. ได้มีคนร้ายแฝงตัวเข้ามาอยู่ในกลุ่มไลน์ดังกล่าว ทำการเชิญบุคคลอื่นเข้ามาในกลุ่ม แล้วลบสมาชิกกลุ่มเดิมออก 

หลังจากนั้นคนร้ายได้เปลี่ยนชื่อกลุ่มไลน์ใหม่ เป็น "รวยกระจุก จนกระจาย" และได้โพสต์ในกลุ่ม ชักชวนให้สมาชิกในกลุ่มทำงานออนไลน์ โดยการรีวิวสินค้าดันยอดขายให้กับผู้ขายในตลาดอีคอมเมิร์ซของบริษัทแห่งหนึ่ง แล้วจะได้ค่าตอบแทน ซึ่งมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ลงทุน และการกดออเดอร์สินค้า

ต่อมา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 66 ผู้เสียหายมีความสนใจการทำธุรกิจดังกล่าวจึงได้ทักไลน์คนร้ายเพื่อขอรายละเอียด หลังจากนั้นคนร้ายได้ส่งลิงก์ของบริษัทให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลส่วนตัว โดยกลุ่มคนร้ายได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าระบบก่อน เมื่อทำภารกิจเสร็จจะได้เงินค่าตอบแทน 

ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินเข้าระบบ 2 ครั้ง เห็นว่าสามารถถอนเงินได้ จึงได้โอนเงินเพิ่มเข้าระบบเรื่อยๆ จำนวน 15 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 2,962,652.73 บาท เข้าบัญชีธนาคารต่างๆ ของคนร้ายที่เตรียมไว้ แต่เมื่อผู้เสียหายโอนเงินเข้าระบบจำนวนมากๆ จะไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้ ซึ่งคนร้ายจะอ้างเหตุผลต่าง ๆ ซึ่งเป็นวิธีการของการหลอกลวงเพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้กับกลุ่มคนร้าย

 

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 สั่งการให้ พ.ต.ท.ชนทัช วุฒิภัทรโสภณ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3, พ.ต.ต.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม

ต่อมาวันที่ 20 ก.พ. 67 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 โดย พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 ได้สืบสวนติดตามจนทราบที่อยู่ของบุคคลตามหมายจับ จึงได้ไปทำการตรวจสอบ จนพบนายสมพร อายุ 19 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม 

ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยนายสมพร ฯ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดทำบันทึกการจับกุมและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย